หากคุณเช่ารถญี่ปุ่นขับเที่ยวครั้งแรก นี่คือทั้งหมดที่เรารวบรวมมาให้ทั้งรายละเอียดการใช้รถและวิธีที่จะทำให้คุณประหยัดค่าเช่าได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และในฐานะตัวแทน Toyota Rent a Car บริษัทให้บริการรถเช่าญี่ปุ่นในไทยนี่จึงเป็นเหตุที่อยากมาแชร์เรื่องราวต่างๆ
รายละเอียดการเช่ารถในญี่ปุ่นตามปกติ
เราจะแบ่งการเช่ารถออกเป็น 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้คือ 1. ก่อนเช่ารถ 2. การเลือกรถเช่าและค่าใช้จ่าย 3. การรับรถในญี่ปุ่น และ 4. การขับรถในญี่ปุ่น
1. ก่อนเช่ารถที่ญี่ปุ่น
ใบขับขี่สากล
สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือใบขับขี่สากล ใช้ได้เฉพาะใบขับขี่สากลประเภท 1 ปี 1949 Geneva Convention เท่านั้น รถขนาดกลางนั่งได้สูงสุด 5 คน รถกึ่งแวนนั่งได้สูงสุด 8 คน และรถตู้ขนาดใหญ่นั่งได้สูงสุด 10 คน คุณสามารถรับใบขับขี่สากลคลาส B เพื่อใช้รถเช่าขนาดใหญ่สุด 8 ที่นั่งได้ เช่น Toyota Alphard
WAIT !! จะเดินดุ่มไปเช่ารถเลยมันก็คงไม่ได้ เพราะอย่างน้อยสิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ ใบขับขี่สากล หรือใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ (International Driving Permit) ซึ่งจะเป็นเหมือนใบอนุญาตอย่างเป็นทางการนั่นเองครับ อยากรู้ว่าต้องไปทำที่ไหน ทำยังไง เสียค่าทำเท่าไหร่ ใช้เอกสารอะไรบ้าง คลิ๊กที่นี่เลย >> ทำใบขับขี่สากล
วางแผนการขับรถของคุณ
เพื่อไม่ให้เหนื่อยเกินไป คุณควรวางแผนที่จะไม่ขับรถเกิน 200 กม. ต่อวัน ทั้งวางแผ่นคร่าวๆเกี่ยวกับการขับเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงมองหาลานจอดรถไว้ก่อนคร่าวๆ และเพื่อให้สะดวกมากขึ้นอาจจะต้องจองโรงแรมพร้อมที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียง สำหรับการขับในฤดูหนาว ควรประเมินว่าสถานที่ไปนั้นมีหิมะหรือไม่ซึ่งหากไม่ทราบสามารถติดต่อ PKG Journey เพื่อให้คำแนะนำได้
ก่อนทำการจองต้องคำนึงถึงรายละเอียดดังนี้
- เลือกชนิดรถตามจำนวนผู้โดยสารก่อน เนื่องจากกฎหมายญี่ปุ่นจะให้นั่งรถตามจำนวนคนและตามจำนวนเข็มขัดนิรภัยในรถ เช่น รถมี 4 เข็มขัดนิรภัยก็สามารถนั่งได้มากสุด 4 คน นอกจากนี้เลือกชนิดรถควรคำนวณขนาดกระเป๋าเดินทางด้วย ว่าชนิดรถของเรา ผู้โดยสาร และกระเป๋าสามารถใส่ในรถ 1 คันได้หรือไม่ เช่น Yaris 3 นั่งได้ 4 คนก็จริงแต่ใส่กระเป๋าลากใบใหญ่ 4 ใบไม่ได้ หรืออย่าง Toyota Sienta (รถนั่ง 6 คน) พับเบาะหลังแล้ว นั่งได้ 5 คน พอใส่กระเป๋าเดินทาง 5 ใบก็พอดีเลย
- เลือกสถานที่รับ-คืนรถให้สะดวกต่อแผนการเที่ยว และการรับ-คืน : การขับข้ามเมืองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหากคุณมีเที่ยวระหว่างทางและแวะพัก รวมถึงไปในที่ที่เดินทางด้วยรถสาธารณะยาก แต่หากคุณเที่ยวเป็นจุดเช่นเที่ยวแถบโอซาก้า จากนั้นมาเที่ยวแถวฟูจิก่อนจบทริปที่โตเกียว เราก็อยากแนะนำให้เช่าเป็น 3 ช่วงโดยรับคืนรถที่เดิมแทน
- วันเวลาในการรับคืนรถ ส่วนนี้มีผลต่อราคามาก เนื่องจากระบบการคิดราคาจะคำนวณเป็นเรท 24 ชั่วโมงดังนั้นหากเรารับคืนรถมีเศษของเวลาก็จะถูกปรับให้ครบ 24 ชั่วโมง เช่น เรารับรถวันที่ 1 ม.ค. เวลา 08.00 น. และคืนวันที่ 2 ม.ค. เวลา 08.00 น. แต่ปรากฏว่าเราไปคืนตอน 09.00 น. ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนอกจากส่วนคืนล่าช้า 1 ชั่วโมงนั้น เราจะโดนค่าประกัน, ยางหิมะ, ที่นั่งเด็กหรืออื่นๆ เพิ่มอีก 1 วันเลย
- เลือกประกันรถยนต์ แม้ว่าการเลือกประกันจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นมา แต่เรามักจะมีคำพูดที่ว่า “ปัญหาและอุบัติเหตุเกิดตอนที่ประกันหมด” อีกอย่างหากมีอุบัติเหตุที่ญี่ปุ่นค่าใช้จ่ายก็จะสูง (แม้ว่าโอกาสเกิดอุบัติเหตุจะน้อยก็ตาม) ดังนั้นเสียเพิ่มอีกนิดหน่อยแล้วขับอย่างสบายใจย่อมเป็นทางเลือกที่น่าจะดีที่สุด
- เลือกอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ที่นั่งเด็ก, รถขับเคลื่อนสี่ล้อ, บัตรทางด่วน, ยางหิมะ เป้นต้นนั้นส่วนนี้แนะนำให้พิจารณาประกอบกับการเดินทางได้เลยว่าส่วนไหนจำเป็นหรือไม่ หากไม่ทราบก็ทักเรา PKG JOURNEY ได้เลยครับ
ที่นั่งเด็กตามกฎหมายจราจร
เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีต้องนั่งเบาะนั่งสำหรับเด็ก เราขอแนะนำให้เช่าเบาะนั่งสำหรับเด็กสำหรับทารกตามที่กฎหมายกำหนด หากคุณจะเดินทางพร้อมเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ กรุณาแจ้งให้เราทราบเมื่อทำการจองรถ เรายังมีเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กทารกอายุต่ำกว่า 9 เดือนให้บริการด้วย การติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กให้ถูกต้องถือเป็นความรับผิดชอบของคุณ
โดยคุณสามารถเลือกได้ 3 ประเภท
- เบาะนั่งสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี
- ที่นั่งสำหรับเด็กสำหรับเด็กอายุ 4 ปีหรือต่ำกว่า
- และเบาะเสริมสำหรับเด็กอายุ 4 ถึง 10 ปี
ทั้งนี้หากเด็กอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไปก็อนุโลมให้ไม่ต้องที่นั่งเด็ก แต่อาจจะต้องประเมินสรีระของเด็กที่ร่วมเดินทางรวมถึงต้องมีที่นั่งปกติเว้นให้น้องนั่งไปด้วย
ประกันภัยรถเช่าญี่ปุ่น
รถเช่าในอัตราพื้นฐาน รถทุกคันมีประกันภัยพื้นฐาน (ตามกฎหมาย) หากรถของคุณเสียหาย ผู้เช่าต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (ส่วนเกิน) และหากเกิดความเสียหายกับตัวรถ คุณจะถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมที่ไม่ใช่ค่าดำเนินการ (NOC) 20,000-50,000 เยน แต่หากคุณมีประกันส่วนนี้ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุคุณก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม สำหรับค่าสมัคร Collision Damage Waiver (CDW) จะอยู่ที่ 1,100 เยนต่อวัน ค่าประกันค่าเสียโอกาส (ตัวเลือกพิเศษ) Non Operation Charge (NOC) 550 เยน/วัน
***ประกันที่ซื้อเพิ่มเติมจะไม่ครอบคลุม (เป็นโมฆะ) หากผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้ ใบอนุญาต ・ขับรถขณะมึนเมา ・ประมาทเลินเล่อ เช่น ลืมล็อกรถและถูกขโมย จากนั้นเรือก็จมลง
2. การเลือกรถและค่าใช้จ่าย
การเลือกรถเช่าขับในญี่ปุ่น
มีรถให้เช่าและขับ 3 ประเภท คือ รถขนาดเบาหรือรถทรงเหลี่ยม แรงม้าต่ำกว่า 1,000 cc ทัศนวิสัยดี อย่างไรก็ตามการเร่งแซงค่อนข้างช้าและสามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาดกลางได้ 2-3 ใบ รถขนาดกลางที่มีแรงม้าประมาณ 1200-1800cc คือรถประเภท Toyota Corolla Fielder 5 ที่นั่งที่เหมาะสำหรับเดินทาง 4 คน หากเดินทาง 5-6 คน Toyota Noah / Voxy / Esquire เป็นต้นนั้นเป็นรถ Wagon ที่เหมาะกว่าหรือเลือกขนาดที่ใหญ่ขึ้นไปเช่น Toyota Alphard / Vellfire ก็จะมีแรงม้าประมาณ 2,000-2,500 cc
**ค่าเช่ารถแต่ละรุ่นจะแพงขึ้นตามรุ่นรถ และซื้อประกันภัยเพิ่มเติม**
โปรดพิจารณาการเลือกสาขารับรถของคุณ
ส่วนใหญ่มีาขารับคืนรถจะมีตามจุดเชื่อต่อการเดินทาง เช่น สำนักงานให้เช่ารถที่สนามบิน และสามารถรับและคืนรถจากต่างสาขาและต่างเมืองได้ตามสาขาของสถานีหลักและข้อกำหนด ค่าธรรมเนียมคืนรถเช่าต่างสาขา One way fee (ระยะทางระหว่างจุดรับและส่งรถ) เฉลี่ยอยู่ที่ 110 เยนต่อกิโลเมตร
ตัวเลือกเสริมสำหรับการเช่ารถในญี่ปุ่น
ส่วนใหญ่นอกเหนือจากการประกันภัยแล้ว ยังให้คุณเลือกบริการเพิ่มเติม
- บัตรด่วน (บัตร ETC) ค่าเช่า 330 เยนต่อเที่ยว บัตรนี้ทำงานคล้าย Easypass ที่ไทยและรวบรวมข้อมูลการใช้ทางด่วน (เราแนะนำให้เช่าเพราะสะดวกและส่วนลดค่าทางด่วน)
- ที่นั่งเด็ก 550 เยนต่อครั้ง
- การอัพเกรดเป็นรถ 4WD ประมาณ 1,650 เยนต่อวัน
- ยางหิมะฤดูหนาว ฟรีในบางพื้นที่หิมะ ในกรณีไปรับจากเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว นาโฮยะ และโอซาก้า ค่าเช่าจะอยู่ที่ 2,200 เยนถึง 3,300 เยนต่อวัน ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ
- บัตรช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน JAF Card (JAPAN AUTOMOBILE FEDERATION) ค่าเช่า 550 เยนต่อเที่ยว หากสมัครตัวบัตรจะมีให้บริการถึง 16 ภาษาต่างประเทศ สามารถใช้บริการของจุดให้บริการ JAF โรด เซอร์วิส ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงได้รวมถึงรับสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกได้ในร้านค้าเครือ JAF ทั่วประเทศ
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างขับรถเช่าที่ญี่ปุ่น
- ค่าน้ำมันประมาณ 3-4 บาท / กม.
- ค่าทางด่วนเฉลี่ย 8-9 บาท / กม.
- ค่าจอดรถอาจถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับพื้นที่ หากคุณจอดรถใกล้ชุมชน ค่าจอดรถในพื้นที่ท่องเที่ยวจะแพงอยู่ที่ 1,000 ถึง 2,000 เยนต่อชั่วโมง และถูกกว่าในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ค่าจอดรถจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และบริษัทที่จอดรถ
*** ทริคเล็กๆ คุณสามารถค้นหาที่จอดรถได้ง่ายๆ โดยพิมพ์ “駐車場” ใน Google Maps และใช้ Street View เพื่อดูราคา ***
3. การรับรถเช่าเมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่น
เมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่นแล้วคุณสามารถแสดงเอกสารรับรถที่เคาเตอร์รับรถได้ทันทีง่ายๆ โดยเอกสารที่ใช้มีดังต่อไปนี้
- ใบขับขี่สากลที่ยังไม่หมดอายุตลอดระหว่างระยะเวลาเช่าและมีตราประทับตามประเภทรถที่เช่าได้
- หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
- เอกสารการรับรถ Confirmation Voucher
- คุณสามารถลงชื่อผู้ขับขี่หลายคนได้โดยผู้ขับต้องมีใบขับขี่สากลและหนังสือเดินทาง
เมื่อรับรถเช่าแล้ว พนักงานจะขอให้คุณเซ็นสัญญาเช่า ชำระค่าเช่ารถหรืออุปกรณ์เสริม (หากมี) เจ้าหน้าที่จะให้สัญญารถเช่า สัญญาเช่า บัตร ETC และอธิบายเกี่ยวกับการเติมน้ำมัน (ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเบนซิน) และต้องเต็มจำนวนเมื่อส่งคืน หากน้ำมันไม่เต็มถังจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสภาพและความเสียหายของรถ ตั้งค่าบัตร ETC ตั้ง GPS จากนั้นส่งมอบกุญแจและคุณก็สามารถเริ่มขับได้ทันที
4. การขับรถเช่าในญี่ปุ่น
4.1 การใช้รถใช้ถนน
- อันนี้สำคัญ !! เลี้ยวซ้ายไม่ผ่านตลอดและทุกแยกจะมีไฟหรือไม่ต้องจอดรถให้นิ่งก่อน มองซ้ายขวาให้เรียบร้อยก่อนขับออกไป
- การขับขี่ รถที่นี่ขับพวงมาลัยด้านขวาเหมือนบ้านเรา เลยขับไม่ยากเท่าไร แค่จำสัญลักษณ์ป้ายดีๆ แต่ขับแรกๆก็จะเกร็งๆหน่อย อาจจะโดนบีบแตรใส่บ้างก็อย่าไปคิดมาก
- ระวังคนข้ามถนนมากๆ ที่นี่รถต้องรอคน และบางคนก็เดินไม่ค่อยหลบรถ
- ระวังจักรยานตามแยกมากๆ จักรยานบางทีเสียงเงียบและปั่นไว
- เดินทางไปไหนทุกครั้งควรเตรียมการหาตำแหน่งที่จอดรถไว้เสมอ ที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยให้จอดรถริมทาง/ริมฟุตบาท (เว้นแต่มีหลายคันมาจอดก่อนอาจจะเนียนๆตามได้) แต่ที่ไปมาในโซนท่องเที่ยวที่จอดรถหายาก
***ควรมีแผน 1-2-3 ในการหาที่จอดรถกรณีแผน 1 ที่จอดเต็มจะได้มีที่จอดสำรอง โดยตอนคับขันอาจจะ search ใน google map ว่า “parking lot near me” แล้วไปตามที่ที่ใกล้จุดหมายปลายทาง
- ถนนโดยรวมค่อนข้างสะดวกและกว้างขวาง โดยรวมถนนในญี่ปุ่นนั้นกว้างและสะดวกดี แต่ถนนบางสายใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหรือวัดเก่า ถนนจะมีความแคบ บางเส้นที่ Google Map พาไปก็อาจจะไม่ใช่เส้นปกติหรืออาจเจอถนนที่แคบมากก บางเส้นมีเสาไฟฟ้าเบียด บางเส้นมีคนเดินตลอดเวลา ส่วนนี้เราก็อาจจะต้องไปดูคร่าวๆก่อนเดินทางไปก็จะดีขึ้น
4.2 อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในรถ
- รถค่อนข้างทันสมัย/เปิดปิดไฟอัตโนมัติ หลายรุ่นจะมีเซนเซอร์ GPS จับตำแหน่งช่วยเตือนเรา เช่น ถึงตรงป้ายหยุด / แจ้งการจำกัดความเร็ว ดังนั้น GPS รถก็จะพูดญี่ปุ่นงุ้งงิ้งๆตลอด แต่เราฟังไม่รู้เรื่อง ก็ขอแค่ให้แค่ระวังเฉยๆ ไม่ต้องประหม่ามากว่ามันจะเตือนอะไรร้ายแรง
- อย่าคาดหวัง GPS ที่มากับรถมากไม่ใช่ว่าไม่แม่นยำ เพียงแต่เราอาจไม่ชินเฉยๆ ดังนั้นอยากจะแนะนำให้ใช้ Google Map ในมือถือภาษาไทยนำทางด้สยครับ โดยรวมโอเคมากแค่ระวังอย่าไปทางลัดมาก อาจจะเจอซอยเล็ก เป็นไปได้ไปทางตรงๆง่ายๆดีกว่าครับ
- มาช่วงอากาศเย็นในรถมี Heater ปรับอุณหภูมิให้อุ่นได้ ส่วนนี้ก็ต้องระวังด้วยเพราะข้างนอกหนาวข้างในอุ่นๆมันจะพาเราง่วงนอน ให้แง้มกระจกหน่อยๆก็ดีพอให้มีลมเย็นๆเข้ามาบ้าง
- กระจกรถใสมากข้างนอกมองเข้ามาเห็นหมด ทำอะไรก็มองซ้ายมองขวาหน่อยนะ อิอิ
ทั้งนี้เพื่อให้คุณเข้าใจง่ายที่สุดในขั้นตอนทั้งหมดข้างต้นเราขอสรุปเป็นคลิปการใช้รถดังนี้
5 ค่าใช้จ่าย
5.1 การเช่ารถเที่ยวอาจจะทำใจค่าที่จอดหยอดเหรียญนิดหน่อย ยิ่งถ้าเที่ยวแวะหลายที่อาจจะเสียเงินเยอะพอตัว กลางวันจะคิดเป็นชั่วโมง ส่วนกลางคืนโซนที่พักบางที่จะคิดราคาเหมาคืน ส่วนมากไม่เกิน 1200-1500¥ โดยค่าจอดสามารถเข้า google map แล้วจิ้มลานจอดรถเพื่อดูรูปป้ายราคาได้
5.2 ค่าน้ำมัน ค่าน้ำมันของญี่ปุ่นราคาพอๆกับประเทศไทยเรานี่แหละครับ
6 การรับ-คืนรถเช่าที่ญี่ปุ่น
6.1 ตอนรับรถไม่ค่อยยุ่งยากอะไร ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตการันตี แต่อาจจะต้องมีชำระค่าเช่าบัตรทางด่วน แต่โดยรวมๆควรเผื่อเวลาก่อนรับรถไว้สักครึ่งชั่วโมง
6.2 ตอนคืนรถ อันนี้ควรตรงเวลา เพราะหากช้าญี่ปุ่นปรับทันที ให้คิดเผื่อเวลาในการรวมตัวเพื่อนๆ เผื่อเวลาเดินไปเอารถ ที่สำคัญควรเผื่อเวลาไว้เติมน้ำมันคืน หรือจะเติมไว้คืนก่อนหน้าก็ได้
6.3 ตอนคืนต้องเก็บใบเสร็จที่เติมน้ำมันไว้ด้วยนะ (ถ่ายรูปก็ได้) เค้าจะขอดูว่าเราเติมคืนให้จริงมั้ย หากไม่มีอาจจะต้องคุยเพื่อตรวจเช็คกันแต่บอกตามตรงว่าโดยรวมการคืนง่าย เก็บขยะ ตรวจรอยขูดคร่าวๆ ไม่มีก็ผ่าน ใช้เวลา 5-10 นาที
7. ข้อมูลเสริมอื่นๆ
7.1 วิธีการจอดโดยใช้ตู้จอดรถหยอดเหรียญ
- ถอดจอดเข้าช่องจอดที่ว่างได้เลย
- ประมาณ 2-3 นาทีที่ดักล้อจะยกขึ้นเอง
7.2 วิธีการเอารถออกจากที่จอดโดยใช้ตู้จอดรถหยอดเหรียญ
- ดูเลขช่องจอดรถเราว่าเลขอะไร
- กดเลขช่องจอดเรา
- กดปุ่ม Payment (支払い) ซึ่ง 99% มักเป็นภาษาญี่ปุ่น
- ถ้ากดถูกจะขึ้นราคามาให้ เราก็จ่ายเงินเป็นอันเสร็จ
***จ่ายตังแล้วควรออกรถภายใน 3-5 นาที ไม่งั้นที่ดักล้อจะยกใหม่/หากจะใช้เวลาใส่กระเป๋าแนะนำขยับรถออกมาก่อน
***ลานจอดรถบางลานอยู่ติดๆกัน เช็คให้แน่ใจว่าตู้ที่เราจ่ายนั้นเป็นตู้ลานจอดของเรา
8 วิธีการเติมน้ำมัน
- ตอนรับรถเจ้าหน้าที่จะแจ้งชนิดน้ำมันให้ว่าเราเติมชนิดไหน ส่วนมากน่าจะเป็น Regular หัวสีแดง
- มองหาปั๊มที่เติมโดยมีคนเติมให้ (ดูง่ายๆใส่ชุดหมีสีสันสดใส) จากนั้นแจ้งว่า > Regular > Full Tank (ภาษาญี่ปุ่นพูดว่า “มังตัง” “Man Tan”) > จ่ายด้วย Cash
- หากงงหรือสงสัยหาดูในช่องยูทูปของ PKG JOURNEY ได้เช่นกัน (การเติมน้ำมันด้วยตู้อัตโนมัติ)
สรุปการเลือกรถเช่าขับที่ญี่ปุ่น
เช่ารถญี่ปุ่น นั้นจริงๆแล้วก็ไม่ได้ยากเกินการเข้าใจในการขับหรือใช้บริการ แต่หากต้องหาผู้ให้บริการที่เป็นตัวแทนและสามารถให้คำปรึกษาได้นั่นเอง หากคุณสนใจเช่ารถญี่ปุ่นคลี๊กหาเราที่ เช่ารถญี่ปุ่น