Contact Us On 02 676 3303 contact@pkgjourney.com

เช่ารถญี่ปุ่น ขับเที่ยวครั้งแรกต้องดู คู่มือที่ทำให้ประหยัดและปลอดภัย

หากคุณเช่ารถญี่ปุ่นขับเที่ยวครั้งแรก นี่คือทั้งหมดที่เรารวบรวมมาให้ทั้งรายละเอียดการใช้รถและวิธีที่จะทำให้คุณประหยัดค่าเช่าได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และในฐานะตัวแทน Toyota Rent a Car บริษัทให้บริการรถเช่าญี่ปุ่นในไทยนี่จึงเป็นเหตุที่อยากมาแชร์เรื่องราวต่างๆ

รายละเอียดการเช่ารถในญี่ปุ่นตามปกติ

เราจะแบ่งการเช่ารถออกเป็น 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้คือ 1. ก่อนเช่ารถ 2. การเลือกรถเช่าและค่าใช้จ่าย 3. การรับรถในญี่ปุ่น และ 4. การขับรถในญี่ปุ่น

1. ก่อนเช่ารถที่ญี่ปุ่น

ใบขับขี่สากล

สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือใบขับขี่สากล ใช้ได้เฉพาะใบขับขี่สากลประเภท 1 ปี 1949 Geneva Convention เท่านั้น รถขนาดกลางนั่งได้สูงสุด 5 คน รถกึ่งแวนนั่งได้สูงสุด 8 คน และรถตู้ขนาดใหญ่นั่งได้สูงสุด 10 คน คุณสามารถรับใบขับขี่สากลคลาส B เพื่อใช้รถเช่าขนาดใหญ่สุด 8 ที่นั่งได้ เช่น Toyota Alphard
ใบขับขี่สากล หรือใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ (International Driving Permit)


WAIT !! จะเดินดุ่มไปเช่ารถเลยมันก็คงไม่ได้ เพราะอย่างน้อยสิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ ใบขับขี่สากล หรือใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศ (International Driving Permit) ซึ่งจะเป็นเหมือนใบอนุญาตอย่างเป็นทางการนั่นเองครับ อยากรู้ว่าต้องไปทำที่ไหน ทำยังไง เสียค่าทำเท่าไหร่ ใช้เอกสารอะไรบ้าง คลิ๊กที่นี่เลย >> ทำใบขับขี่สากล


วางแผนการขับรถของคุณ

เพื่อไม่ให้เหนื่อยเกินไป คุณควรวางแผนที่จะไม่ขับรถเกิน 200 กม. ต่อวัน ทั้งวางแผ่นคร่าวๆเกี่ยวกับการขับเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงมองหาลานจอดรถไว้ก่อนคร่าวๆ และเพื่อให้สะดวกมากขึ้นอาจจะต้องจองโรงแรมพร้อมที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียง สำหรับการขับในฤดูหนาว ควรประเมินว่าสถานที่ไปนั้นมีหิมะหรือไม่ซึ่งหากไม่ทราบสามารถติดต่อ PKG Journey เพื่อให้คำแนะนำได้

ก่อนทำการจองต้องคำนึงถึงรายละเอียดดังนี้

  • เลือกชนิดรถตามจำนวนผู้โดยสารก่อน เนื่องจากกฎหมายญี่ปุ่นจะให้นั่งรถตามจำนวนคนและตามจำนวนเข็มขัดนิรภัยในรถ เช่น รถมี 4 เข็มขัดนิรภัยก็สามารถนั่งได้มากสุด 4 คน นอกจากนี้เลือกชนิดรถควรคำนวณขนาดกระเป๋าเดินทางด้วย ว่าชนิดรถของเรา ผู้โดยสาร และกระเป๋าสามารถใส่ในรถ 1 คันได้หรือไม่ เช่น Yaris 3 นั่งได้ 4 คนก็จริงแต่ใส่กระเป๋าลากใบใหญ่ 4 ใบไม่ได้ หรืออย่าง Toyota Sienta (รถนั่ง 6 คน) พับเบาะหลังแล้ว นั่งได้ 5 คน พอใส่กระเป๋าเดินทาง 5 ใบก็พอดีเลย
  • เลือกสถานที่รับ-คืนรถให้สะดวกต่อแผนการเที่ยว และการรับ-คืน : การขับข้ามเมืองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหากคุณมีเที่ยวระหว่างทางและแวะพัก รวมถึงไปในที่ที่เดินทางด้วยรถสาธารณะยาก แต่หากคุณเที่ยวเป็นจุดเช่นเที่ยวแถบโอซาก้า จากนั้นมาเที่ยวแถวฟูจิก่อนจบทริปที่โตเกียว เราก็อยากแนะนำให้เช่าเป็น 3 ช่วงโดยรับคืนรถที่เดิมแทน
  • วันเวลาในการรับคืนรถ ส่วนนี้มีผลต่อราคามาก เนื่องจากระบบการคิดราคาจะคำนวณเป็นเรท 24 ชั่วโมงดังนั้นหากเรารับคืนรถมีเศษของเวลาก็จะถูกปรับให้ครบ 24 ชั่วโมง เช่น เรารับรถวันที่ 1 ม.ค. เวลา 08.00 น. และคืนวันที่ 2 ม.ค. เวลา 08.00 น. แต่ปรากฏว่าเราไปคืนตอน 09.00 น. ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนอกจากส่วนคืนล่าช้า 1 ชั่วโมงนั้น เราจะโดนค่าประกัน, ยางหิมะ, ที่นั่งเด็กหรืออื่นๆ เพิ่มอีก 1 วันเลย
  • เลือกประกันรถยนต์ แม้ว่าการเลือกประกันจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นมา แต่เรามักจะมีคำพูดที่ว่า “ปัญหาและอุบัติเหตุเกิดตอนที่ประกันหมด” อีกอย่างหากมีอุบัติเหตุที่ญี่ปุ่นค่าใช้จ่ายก็จะสูง (แม้ว่าโอกาสเกิดอุบัติเหตุจะน้อยก็ตาม) ดังนั้นเสียเพิ่มอีกนิดหน่อยแล้วขับอย่างสบายใจย่อมเป็นทางเลือกที่น่าจะดีที่สุด
  • เลือกอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ที่นั่งเด็ก, รถขับเคลื่อนสี่ล้อ, บัตรทางด่วน, ยางหิมะ เป้นต้นนั้นส่วนนี้แนะนำให้พิจารณาประกอบกับการเดินทางได้เลยว่าส่วนไหนจำเป็นหรือไม่ หากไม่ทราบก็ทักเรา PKG JOURNEY ได้เลยครับ

ที่นั่งเด็กตามกฎหมายจราจร

เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีต้องนั่งเบาะนั่งสำหรับเด็ก เราขอแนะนำให้เช่าเบาะนั่งสำหรับเด็กสำหรับทารกตามที่กฎหมายกำหนด หากคุณจะเดินทางพร้อมเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ กรุณาแจ้งให้เราทราบเมื่อทำการจองรถ เรายังมีเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กทารกอายุต่ำกว่า 9 เดือนให้บริการด้วย การติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กให้‌ถูกต้อง‌ถือ‌เป็น‌ความรับผิดชอบ‌ของ‌คุณ

โดยคุณสามารถเลือกได้ 3 ประเภท

  1. เบาะนั่งสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี
  2. ที่นั่งสำหรับเด็กสำหรับเด็กอายุ 4 ปีหรือต่ำกว่า
  3. และเบาะเสริมสำหรับเด็กอายุ 4 ถึง 10 ปี

ทั้งนี้หากเด็กอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไปก็อนุโลมให้ไม่ต้องที่นั่งเด็ก แต่อาจจะต้องประเมินสรีระของเด็กที่ร่วมเดินทางรวมถึงต้องมีที่นั่งปกติเว้นให้น้องนั่งไปด้วย
เบาะเสริมสำหรับเด็กอายุ 4 ถึง 10 ปี


ประกันภัยรถเช่าญี่ปุ่น

รถเช่าในอัตราพื้นฐาน รถทุกคันมีประกันภัยพื้นฐาน (ตามกฎหมาย) หากรถของคุณเสียหาย ผู้เช่าต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (ส่วนเกิน) และหากเกิดความเสียหายกับตัวรถ คุณจะถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมที่ไม่ใช่ค่าดำเนินการ (NOC) 20,000-50,000 เยน แต่หากคุณมีประกันส่วนนี้ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุคุณก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม สำหรับค่าสมัคร Collision Damage Waiver (CDW) จะอยู่ที่ 1,100 เยนต่อวัน ค่าประกันค่าเสียโอกาส (ตัวเลือกพิเศษ) Non Operation Charge (NOC) 550 เยน/วัน

***ประกันที่ซื้อเพิ่มเติมจะไม่ครอบคลุม (เป็นโมฆะ) หากผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขต่อไปนี้ ใบอนุญาต ・ขับรถขณะมึนเมา ・ประมาทเลินเล่อ เช่น ลืมล็อกรถและถูกขโมย จากนั้นเรือก็จมลงNon Operation Charge (NOC)

2. การเลือกรถและค่าใช้จ่าย

การเลือกรถเช่าขับในญี่ปุ่น

มีรถให้เช่าและขับ 3 ประเภท คือ รถขนาดเบาหรือรถทรงเหลี่ยม แรงม้าต่ำกว่า 1,000 cc ทัศนวิสัยดี อย่างไรก็ตามการเร่งแซงค่อนข้างช้าและสามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาดกลางได้ 2-3 ใบ รถขนาดกลางที่มีแรงม้าประมาณ 1200-1800cc คือรถประเภท Toyota Corolla Fielder 5 ที่นั่งที่เหมาะสำหรับเดินทาง 4 คน หากเดินทาง 5-6 คน Toyota Noah / Voxy / Esquire เป็นต้นนั้นเป็นรถ Wagon ที่เหมาะกว่าหรือเลือกขนาดที่ใหญ่ขึ้นไปเช่น Toyota Alphard / Vellfire ก็จะมีแรงม้าประมาณ 2,000-2,500 cc

**ค่าเช่ารถแต่ละรุ่นจะแพงขึ้นตามรุ่นรถ และซื้อประกันภัยเพิ่มเติม**
รถขนาดกลางที่มีแรงม้าประมาณ 1200-1800cc TOYOTA ROOMY

โปรดพิจารณาการเลือกสาขารับรถของคุณ

ส่วนใหญ่มีาขารับคืนรถจะมีตามจุดเชื่อต่อการเดินทาง เช่น สำนักงานให้เช่ารถที่สนามบิน และสามารถรับและคืนรถจากต่างสาขาและต่างเมืองได้ตามสาขาของสถานีหลักและข้อกำหนด ค่าธรรมเนียมคืนรถเช่าต่างสาขา One way fee (ระยะทางระหว่างจุดรับและส่งรถ) เฉลี่ยอยู่ที่ 110 เยนต่อกิโลเมตร

ตัวเลือกเสริมสำหรับการเช่ารถในญี่ปุ่น

ส่วนใหญ่นอกเหนือจากการประกันภัยแล้ว ยังให้คุณเลือกบริการเพิ่มเติม

  1. บัตรด่วน (บัตร ETC) ค่าเช่า 330 เยนต่อเที่ยว บัตรนี้ทำงานคล้าย Easypass ที่ไทยและรวบรวมข้อมูลการใช้ทางด่วน (เราแนะนำให้เช่าเพราะสะดวกและส่วนลดค่าทางด่วน)
  2. ที่นั่งเด็ก 550 เยนต่อครั้ง
  3. การอัพเกรดเป็นรถ 4WD ประมาณ 1,650 เยนต่อวัน
  4. ยางหิมะฤดูหนาว ฟรีในบางพื้นที่หิมะ ในกรณีไปรับจากเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว นาโฮยะ และโอซาก้า ค่าเช่าจะอยู่ที่ 2,200 เยนถึง 3,300 เยนต่อวัน ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ
  5. บัตรช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน JAF Card (JAPAN AUTOMOBILE FEDERATION) ค่าเช่า 550 เยนต่อเที่ยว หากสมัครตัวบัตรจะมีให้บริการถึง 16 ภาษาต่างประเทศ สามารถใช้บริการของจุดให้บริการ JAF โรด เซอร์วิส ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงได้รวมถึงรับสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกได้ในร้านค้าเครือ JAF ทั่วประเทศ
    JAF Card (JAPAN AUTOMOBILE FEDERATION)

ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างขับรถเช่าที่ญี่ปุ่น

  • ค่าน้ำมันประมาณ 3-4 บาท / กม.
  • ค่าทางด่วนเฉลี่ย 8-9 บาท / กม.
  • ค่าจอดรถอาจถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับพื้นที่ หากคุณจอดรถใกล้ชุมชน ค่าจอดรถในพื้นที่ท่องเที่ยวจะแพงอยู่ที่ 1,000 ถึง 2,000 เยนต่อชั่วโมง และถูกกว่าในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ค่าจอดรถจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค และบริษัทที่จอดรถ

*** ทริคเล็กๆ คุณสามารถค้นหาที่จอดรถได้ง่ายๆ โดยพิมพ์ “駐車場” ใน Google Maps และใช้ Street View เพื่อดูราคา ***


3. การรับรถเช่าเมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่น

เมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่นแล้วคุณสามารถแสดงเอกสารรับรถที่เคาเตอร์รับรถได้ทันทีง่ายๆ โดยเอกสารที่ใช้มีดังต่อไปนี้

  1. ใบขับขี่สากลที่ยังไม่หมดอายุตลอดระหว่างระยะเวลาเช่าและมีตราประทับตามประเภทรถที่เช่าได้
  2. หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
  3. เอกสารการรับรถ Confirmation Voucher
  4. คุณสามารถลงชื่อผู้ขับขี่หลายคนได้โดยผู้ขับต้องมีใบขับขี่สากลและหนังสือเดินทาง

เมื่อรับรถเช่าแล้ว พนักงานจะขอให้คุณเซ็นสัญญาเช่า ชำระค่าเช่ารถหรืออุปกรณ์เสริม (หากมี) เจ้าหน้าที่จะให้สัญญารถเช่า สัญญาเช่า บัตร ETC และอธิบายเกี่ยวกับการเติมน้ำมัน (ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเบนซิน) และต้องเต็มจำนวนเมื่อส่งคืน หากน้ำมันไม่เต็มถังจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบสภาพและความเสียหายของรถ ตั้งค่าบัตร ETC ตั้ง GPS จากนั้นส่งมอบกุญแจและคุณก็สามารถเริ่มขับได้ทันที

4. การขับรถเช่าในญี่ปุ่น

4.1 การใช้รถใช้ถนน

  • อันนี้สำคัญ !! เลี้ยวซ้ายไม่ผ่านตลอดและทุกแยกจะมีไฟหรือไม่ต้องจอดรถให้นิ่งก่อน มองซ้ายขวาให้เรียบร้อยก่อนขับออกไป
  • การขับขี่ รถที่นี่ขับพวงมาลัยด้านขวาเหมือนบ้านเรา เลยขับไม่ยากเท่าไร แค่จำสัญลักษณ์ป้ายดีๆ แต่ขับแรกๆก็จะเกร็งๆหน่อย อาจจะโดนบีบแตรใส่บ้างก็อย่าไปคิดมาก
  • ระวังคนข้ามถนนมากๆ ที่นี่รถต้องรอคน และบางคนก็เดินไม่ค่อยหลบรถ
  • ระวังจักรยานตามแยกมากๆ จักรยานบางทีเสียงเงียบและปั่นไว
  • เดินทางไปไหนทุกครั้งควรเตรียมการหาตำแหน่งที่จอดรถไว้เสมอ ที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยให้จอดรถริมทาง/ริมฟุตบาท (เว้นแต่มีหลายคันมาจอดก่อนอาจจะเนียนๆตามได้) แต่ที่ไปมาในโซนท่องเที่ยวที่จอดรถหายาก

***ควรมีแผน 1-2-3 ในการหาที่จอดรถกรณีแผน 1 ที่จอดเต็มจะได้มีที่จอดสำรอง โดยตอนคับขันอาจจะ search ใน google map ว่า “parking lot near me” แล้วไปตามที่ที่ใกล้จุดหมายปลายทาง

  • ถนนโดยรวมค่อนข้างสะดวกและกว้างขวาง โดยรวมถนนในญี่ปุ่นนั้นกว้างและสะดวกดี แต่ถนนบางสายใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหรือวัดเก่า ถนนจะมีความแคบ บางเส้นที่ Google Map พาไปก็อาจจะไม่ใช่เส้นปกติหรืออาจเจอถนนที่แคบมากก บางเส้นมีเสาไฟฟ้าเบียด บางเส้นมีคนเดินตลอดเวลา ส่วนนี้เราก็อาจจะต้องไปดูคร่าวๆก่อนเดินทางไปก็จะดีขึ้น

4.2 อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในรถ

  • รถค่อนข้างทันสมัย/เปิดปิดไฟอัตโนมัติ หลายรุ่นจะมีเซนเซอร์ GPS จับตำแหน่งช่วยเตือนเรา เช่น ถึงตรงป้ายหยุด / แจ้งการจำกัดความเร็ว ดังนั้น GPS รถก็จะพูดญี่ปุ่นงุ้งงิ้งๆตลอด แต่เราฟังไม่รู้เรื่อง ก็ขอแค่ให้แค่ระวังเฉยๆ ไม่ต้องประหม่ามากว่ามันจะเตือนอะไรร้ายแรง 
  • อย่าคาดหวัง GPS ที่มากับรถมากไม่ใช่ว่าไม่แม่นยำ เพียงแต่เราอาจไม่ชินเฉยๆ ดังนั้นอยากจะแนะนำให้ใช้ Google Map ในมือถือภาษาไทยนำทางด้สยครับ โดยรวมโอเคมากแค่ระวังอย่าไปทางลัดมาก อาจจะเจอซอยเล็ก เป็นไปได้ไปทางตรงๆง่ายๆดีกว่าครับ
  • มาช่วงอากาศเย็นในรถมี Heater ปรับอุณหภูมิให้อุ่นได้ ส่วนนี้ก็ต้องระวังด้วยเพราะข้างนอกหนาวข้างในอุ่นๆมันจะพาเราง่วงนอน ให้แง้มกระจกหน่อยๆก็ดีพอให้มีลมเย็นๆเข้ามาบ้าง
  • กระจกรถใสมากข้างนอกมองเข้ามาเห็นหมด ทำอะไรก็มองซ้ายมองขวาหน่อยนะ อิอิ

ทั้งนี้เพื่อให้คุณเข้าใจง่ายที่สุดในขั้นตอนทั้งหมดข้างต้นเราขอสรุปเป็นคลิปการใช้รถดังนี้

5 ค่าใช้จ่าย

5.1 การเช่ารถเที่ยวอาจจะทำใจค่าที่จอดหยอดเหรียญนิดหน่อย ยิ่งถ้าเที่ยวแวะหลายที่อาจจะเสียเงินเยอะพอตัว กลางวันจะคิดเป็นชั่วโมง ส่วนกลางคืนโซนที่พักบางที่จะคิดราคาเหมาคืน ส่วนมากไม่เกิน 1200-1500¥ โดยค่าจอดสามารถเข้า google map แล้วจิ้มลานจอดรถเพื่อดูรูปป้ายราคาได้

5.2 ค่าน้ำมัน ค่าน้ำมันของญี่ปุ่นราคาพอๆกับประเทศไทยเรานี่แหละครับ

6 การรับ-คืนรถเช่าที่ญี่ปุ่น

6.1 ตอนรับรถไม่ค่อยยุ่งยากอะไร ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตการันตี แต่อาจจะต้องมีชำระค่าเช่าบัตรทางด่วน แต่โดยรวมๆควรเผื่อเวลาก่อนรับรถไว้สักครึ่งชั่วโมง

6.2 ตอนคืนรถ อันนี้ควรตรงเวลา เพราะหากช้าญี่ปุ่นปรับทันที ให้คิดเผื่อเวลาในการรวมตัวเพื่อนๆ เผื่อเวลาเดินไปเอารถ ที่สำคัญควรเผื่อเวลาไว้เติมน้ำมันคืน หรือจะเติมไว้คืนก่อนหน้าก็ได้

6.3 ตอนคืนต้องเก็บใบเสร็จที่เติมน้ำมันไว้ด้วยนะ (ถ่ายรูปก็ได้) เค้าจะขอดูว่าเราเติมคืนให้จริงมั้ย หากไม่มีอาจจะต้องคุยเพื่อตรวจเช็คกันแต่บอกตามตรงว่าโดยรวมการคืนง่าย เก็บขยะ ตรวจรอยขูดคร่าวๆ ไม่มีก็ผ่าน ใช้เวลา 5-10 นาที

7. ข้อมูลเสริมอื่นๆ

7.1 วิธีการจอดโดยใช้ตู้จอดรถหยอดเหรียญ

  • ถอดจอดเข้าช่องจอดที่ว่างได้เลย
  • ประมาณ 2-3 นาทีที่ดักล้อจะยกขึ้นเอง

7.2 วิธีการเอารถออกจากที่จอดโดยใช้ตู้จอดรถหยอดเหรียญ

  • ดูเลขช่องจอดรถเราว่าเลขอะไร
  • กดเลขช่องจอดเรา
  • กดปุ่ม Payment (支払い) ซึ่ง 99% มักเป็นภาษาญี่ปุ่น
  • ถ้ากดถูกจะขึ้นราคามาให้ เราก็จ่ายเงินเป็นอันเสร็จ

***จ่ายตังแล้วควรออกรถภายใน 3-5 นาที ไม่งั้นที่ดักล้อจะยกใหม่/หากจะใช้เวลาใส่กระเป๋าแนะนำขยับรถออกมาก่อน
***ลานจอดรถบางลานอยู่ติดๆกัน เช็คให้แน่ใจว่าตู้ที่เราจ่ายนั้นเป็นตู้ลานจอดของเรา

8 วิธีการเติมน้ำมัน

  • ตอนรับรถเจ้าหน้าที่จะแจ้งชนิดน้ำมันให้ว่าเราเติมชนิดไหน ส่วนมากน่าจะเป็น Regular หัวสีแดง
  • มองหาปั๊มที่เติมโดยมีคนเติมให้ (ดูง่ายๆใส่ชุดหมีสีสันสดใส) จากนั้นแจ้งว่า > Regular > Full Tank (ภาษาญี่ปุ่นพูดว่า “มังตัง” “Man Tan”) > จ่ายด้วย Cash
  • หากงงหรือสงสัยหาดูในช่องยูทูปของ PKG JOURNEY ได้เช่นกัน (การเติมน้ำมันด้วยตู้อัตโนมัติ)

สรุปการเลือกรถเช่าขับที่ญี่ปุ่น

เช่ารถญี่ปุ่น นั้นจริงๆแล้วก็ไม่ได้ยากเกินการเข้าใจในการขับหรือใช้บริการ แต่หากต้องหาผู้ให้บริการที่เป็นตัวแทนและสามารถให้คำปรึกษาได้นั่นเอง หากคุณสนใจเช่ารถญี่ปุ่นคลี๊กหาเราที่ เช่ารถญี่ปุ่น

รวมแพคเก็จทัวร์เส้นทางทั่วโลก