พาท่าน ทัวร์ยุโรป GRAND ITALY | เส้นทาง มิลาน – โบโลญญ่า – ฟลอเร้นซ์ – เซียน่า – นาโปลี – โรม – วาติกัน
พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 ROW U เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 375 (บริการอาหารบนเครื่อง)เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดูไบ จากนั้น รอเปลี่ยนเครื่อง ออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ EK 091 เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา มิลาน ประเทศอิตาลี นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย (**เวลาท้องถิ่นของประเทศอิตาลีช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม.)
เดินทางเข้าสู่ ตัวเมืองแห่งแฟชั่น เมืองมิลาน (MILAN) พาท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มหาวิหารมิลาน (DUOMO DI MILANA ) หนึ่งในโบสถ์ศริสต์สถาปัตยกรรมกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใน วิหารเชื่อกันว่ามีการบรรจุหมุดตรึงไม้กางเขนของจริงที่ใช้ในการประหารชีวิตพระเยซู บริเวณด้านหน้าตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนที่วิจิตรเป็นอย่างยิ่ง ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับช้อปปิ้งมอลล์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหน่ึงของยุโรปที่ กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่อัดแน่นไปด้วย แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่บางแบรนด์นั้นก็ยังถือ กำเนิด ณ เมืองแห่งนี้ อาทิ Prada, Versace, Armani, Dolce & Gabbana, Valentino รวมไปถึงแบรนด์เนมที่คุ้นหู อีกมากมายอย่าง Gucci, LOUIS VUITTON, Swarovski
เดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (VENORA) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลกยังใช้บรรยากาศและเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่า แต่งเป็นละครโศกนาฎกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1595 เรื่องโรมิโอกับจูเลียต ถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต JULIET’S HOUSE ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต (รวม bus ส่งที่ Arena ประหยัดระยะทางไปกว่า 1 กม.)
เดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ (TRONCHETTO) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิสหรือเวเนเซีย(VENEZIA) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณ ซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส นำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส
ถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค (St.Mark’s Square) ที่จักรพรรดินโปเลียนยกย่องว่าเป็นห้องรับแขกที่สวยที่สุดของยุโรป และยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารซันมาร์โก(San Marco Basillica) มหาวิหารประจำเขตอัครบิดรเวนิส สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน เนื่องจากถูกทำลายไปเกือบหมดสิ้นในครั้งที่ออกโตมันเข้ายึด ซึ่งภายในโบสถ์นั้นจะมีภาพโมเสกบอกเล่าเรื่องราวในครั้งนั้นอยู่ โดยเซ็นท์มาร์โกถือว่าเป็นนักบวชที่สำคัญในการเผยแพร่ศาสนาในสมัยศตวรรษที่ 5 สำหรับตัวมหาวิหารจะเชื่อมกับ พระราชวังดอร์จ(Doge’s Palace) พระราชวังแบบเวนิส-โกธิคที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของยุคแห่งเวนิสครั้งที่เมืองนี้ยังเป็น สาธารณะรัฐเวนิส ก่อนได้รับการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1923 และยังมี หอระฆังซันมาร์โก (St Mark’s Campanile) หอระฆังสูง 98.6 เมตร โดยอิงการสร้างจากรูปแบบเดิมในปี 1514 และพังทลายลงในปี 1902 ไม่ไกลกันจะเป็นที่ตั้งของ สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สะพานซุ้มโค้งที่เชื่อมระหว่างพระราชวังดอร์ดและเรือนจำ
เดินทางกลับสู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ VENICE MESTRE เพื่อเดินทางสู่เมือง โบโลญญ่า (Bologna)พาท่านชม จัตุรัสแมกจิโอเร่ (Piazza Maggiore) ที่ถือเป็นใจกลางเมืองประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างสำคัญมากมาย อาทิ มหาวิหารซาน เปโตรนิโอ มหาวิหารโกธิคขนาดใหญ่ โบสถ์ ซานตามาเรีย เดล วีต้า โบสถ์คาทอลิกที่แทรกตัวอย่างกลมกลืนกับตัวเมือง รวมไปถือ หอคอยคู่ ที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ โดยสร้างขึ้นมาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 10 เพื่อแสดงความมีอำนาจของ 2 ตระกูลใหญ่ที่ปกครองเมืองในขณะนั้น
เดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. นำท่าน เข้าชม จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (PIAZZA DEL DUOMO) ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของเมือง ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้จะประกอบไปด้วย หอศีลจุ่ม วิหาร และหอระฆัง ซึ่งที่นี่มีหอระฆังที่โด่งดังระดับโลก นั้นคือ หอระฆังเอน แห่งเมืองปิซ่า (รวม ค่ารถบัสไปยังหอ)
นำท่านชมบริเวณรอบหอระฆังแห่งนี้พร้อมเก็บรูปเป็นที่ระลึกกับ หอเอนเมืองปีซ่า ( LEANING TOWER OF PISA ) หอระฆังทรงกระบอก 8 ชั้น โดยเอกลักษณ์และสาเหตุที่ทำให้หอระฆังแห่งนี้ได้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั้นคือการที่ตัวอาคารมีลักษณะเอียงไปทางเหนือประมาณ 3.97 องศา หอเอนแห่งปิซ่าแรกเริ่มสร้างในปี 1174 แต่เมื่อสร้างขึ้นไปเพียง 3 ชั้น ฐานอาคารก็เกิดการทรุดตัวลง เนื่องจากเนื้อดินในบริเวณนี้ไม่มีชั้นหินแทรก ประกอบกับตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำอาร์โน ทำให้ดินมีความชื้นและเหลวกว่าปกติ จนทำให้ต้องยุติการก่อสร้างไปกว่า 94 ปี จนกระทั่งปี 1272 สถาปนิกนาม จีโอวานี ดี ซีโมเน่ (Giovanni di Simone) ได้มาสานต่อด้วยเทคนิคการสร้างให้เพดานไม่เท่ากันเพื่อรักษาอาหารให้สมดุล แต่ก็ต้องยุติการก่อสร้างในปี 1284 จากภัยสงคราม ก่อนชั้นที่ 7 ของอาคารจะเสร็จในปี 1319 และตัวหอระฆังถูกเติมจนเสร็จสิ้นเมื่อปี 1372 นับเป็นเวลาร่วม 199 ปี นับจากวันที่เริ่มสร้าง โดยตัวอาคารเคยเอียงมากสุดถึง 5.5 องศา ในปี 1990 ให้
เดินทางสู่ เมืองฟลอเร้นซ์ (FLORENCE ) ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลี และเมืองหลวงของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เป็นเมืองซึ่งเป็นที่ถือกำเนิดของจิตรกรระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มีเกลันเจโล ลีโอนาโด ดาวินชี่ ราฟาเอล ซานตี และอีกมากมาย
พาท่านถ่ายรูปมุมสูงของเมืองที่ จัตุรัสมิเกลลันเจลโล่ (Piazzale Michelangelo) ซึ่งถือว่าเป็น 1 ในมุมที่ดีที่สุดที่จะได้เห็นทัศนียภาพแบบพาโนราม่า บนนี้ท่านจะสามารถเห็นกลุ่มอาคารสำคัญๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหารฟลอเรนซ์ สะพานเวคคิโอ พระราชวังปิติ และยังเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเดวิดจำลองอีกด้วย
ชมชมความยิ่งใหญ่ และอลังการของ มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria Dell Fiore) วิหารของเมืองฟลอเรนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปยุโรป ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อนหลายสีตกแต่งผสมผสานกันได้อย่างงดงาม
ชมจัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ซึ่งรายล้อมไปด้วยรูปปั้น อาทิ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน (Fountain of Neptune), วีรบุรุษเปอร์ซิอุสถือหัวเมดูซ่า (Perseus with the Head of Medusa), รูปปั้นเดวิด ผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่เป็นต้น
พาท่านช้อปปิ้งที่ The mall Outlet เอ้าท์เลทหรูที่มีสินค้าแบรนด์เนมคุณภาพเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น Gucci Versace Prada Armani Bottega Veneta Dolce&Gabbana Tory Burch Burberry และอีกมากมาย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซียน่า ( SIENA ) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ.1995 นำท่านเดินเข้าสู่ตัวเมืองเก่า เพื่อชมจัตุรัสเดล คัมโป (Piazza del Campo) ที่นับว่าเป็นจตุรัสที่มีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งในอิตาลี ให้เวลาท่านชมและเดินเล่นถ่ายรูปบริเวณรอบนอกของปาลาซโซ พับบลิโค (Palazzo Pubblico) เป็นพระราชวังเก่าที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบโรมาเนสก์ ตั้งแต่ปีค.ศ.1297 และ หอระฆังมานเจีย (Torre del Mangia) อีกหนึ๋งสัญลักษณ์ของเซียนา
มุ่งหน้าสู่ เมืองนาโปลี (Napoli) อีกหนึ่งเมืองดัง ที่เคยเป็นถึงนครรัฐ ถือเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี มีความสำคัญในแง่มุมทั้ง ประวัติศาสตร์ การเมือง และเศษฐกิจ
เดินทางสู่ เมืองโซเรนโต้ (Sorrento) เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของอิตาลีเลียบชายหาดทะเลฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน อีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยม พาท่านเดินชมความงามของเมือง แวะถ่ายรูป ที่โบสถ์ซอเรนโต (Sorrento Cathedral) โบสถ์ใหญ่ประจำเมืองสร้างในศตวรรษที่ 15 เพื่ออุทิศให้แด่นักบุญฟิลิป และนักบุญเจมส์ สิ่งที่น่าชมคือภาพประดับผนังเฟรสโกชื่อ Madonna Assunta และรูปสลักนักบุญทั้งสองบนบานประตูทั้ง 2 บาน
พาท่านสู่ เมืองปอมเปอี (Pompei) อีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกฝังไว้ใต้ลาวาจากการระเบิดของภูเขาไฟวิซุเวียส เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 79 และถูกค้นพบอีกครั้งใรปี 1534 และได้มีนักประวัติศาสตร์ศึกษาค้นคว้าอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
เดินทางสู่ศูนย์กลางการปกครองของอิตาลีที่ กรุงโรม (Rome) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. เมืองหลวงของประเทศอิตาลี และเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันที่รุ่งเรืองถือเป็นรากฐานของสังคมและวัฒนธรรมของชาติยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ปฏิทินตามหลักสุริยะคติ กฎหมาย การประชุมในสภาในรูปแบบสาธารณรัฐ เป็นต้น แวะถ่ายบริเวณด้านนอก โคลอสเซี่ยม (COLOSSEUM) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ฟราเวียนแอมฟิเธียเตอร์ อีก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ต้นแบบของสนามกีฬาของโลก เป็นแหล่งบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโรมัน สร้างขึ้นในสมัยของจักพรรดิเวสปาเซียนในปี ค.ศ. 70 ก่อนเปิดอย่างเป็นทางการในอีก 10 ปีต่อมาในสมัยพระเจ้าไททัส เป็นสนามกีฬาที่จะเป็นการประชันการต่อสู่ระหว่างเหล่านักรบกลาดิเอเตอร์ด้วยกันเอง และกับสัตว์ดุร้าย เช่น สิงโต ช้าง แรด เป็นต้น โดยบ้างก็กล่าวกันว่าการต่อสู้ในโคลอสเซี่ยมทำให้สัตว์บางชนิดแทบจะศูนย์พันธุ์เลยทีเดียว การสร้างอาคารแบบอัฒจันทร์กลม 3 ชั้นขนาดใหญ่แห่งนี้ยังถือว่าเป็นการผลิตซีเมนต์แห่งแรกๆ ของโลกอีกด้วย
เข้าชม มหาวิหารนักบุญปีเตอร์ ( ST. PETER’ BASILICA ) ศาสนสถานของคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่ฝังพระศพของพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่ถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการตรึงไม้กางเขนในสมัยของจักรพรรดิเนโร เมื่อปี ค.ศ. 68 ถือเป็นศูนย์รวมทั้งทางกายและทางใจของวาติกัน
โดยมหาวิหารแห่งนี้ได้สร้างทับวิหารหลังเดิมที่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 4 ออกแบบโดยมีเกลันเจโลสุดยอดจิตกรร่วมสมัยกับดาวินชี่
ภายในถูกตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยหินอ่อน โดยมีประติมากรรมชื่อก้องโลกอย่าง ปีเอต้า (Pietà) ซึ่งทำจากหินอ่อนเพียงก้อนเดียวและใช้เวลาในการแกะสลัก 7 ปี บริเวณด้านหน้าคือ จัตุรัสนักบุญปีเตอร์ (St. Peter’s Square) ออกแบบโดย จาน ลอเรนโซ เบอร์นินี อีกหนึ่งประติมากรผู้ได้ฉายาว่า สามารถเสกหินอ่อนให้หายใจได้ จัตุรัสสามารถจุคนได้ประมาณ 60,000 คน ตรงกลางมีเสาโอบีสิสหินแกรนิตแดง สูง 25.5 เมตร จากอียิปต์ ซึ่งเป็นการแสดงถึงแสงยานุภาพของโรมันที่มีต่อประเทศในยุโรปและแถบเมดิเตอร์เรเนียนในขณะนั้น (ในกรณีมีพิธีด้านใน อาจจะไม่ได้รับการเข้าชม)
กลับสู่กรุงโรมนำท่านชมความงามของ น้ำพุเทรวี่ (TREVI FOUNTAIN ) ที่มักกล่าวกันว่าเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน โลก นำท่านเดินชมและถ่ายรูปบริเวณ บันไดสเปน (SPANISH STEPS ) บันไดที่กว้างที่สุดในยุโรป เชื่อมระหว่างจัตุรัสสปังนา กับโบสถ์ทรีนิตี้ นอกจากนั้นยังมีสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายให้ท่านได้เลือกสรรค์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Louis Vuitton, Prada, Longchamp, Chanel, DIOR, Balenciaga เป็นต้น แต่หากสนใจชิมกาแฟเอสเปรสโซ่ต้นตำหรับ ก็มีร้านกาแฟมากมายให้ท่านได้ลิ้มลอง
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีมีงานเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ ถือว่าเป็นสายการ 5 ดาว ซึ่งอยู่อันดับต้นๆของการจัดอันดับสายการบินที่ดีที่สุดในโลกมาโดยตลอด
| ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานนานาชาติท่าอากาศดูไบ
| เวลา 09.30 น. – 13.00 น.
| ท่าอากาศยานนานาชาติท่าอากาศดูไบ – ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา
| เวลา 015.45 น.. – 20.30 น.
| ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน – ท่าอากาศยานนานาชาติท่าอากาศดูไบ
| เวลา 22.05 น.. – 05.45 น.
| ท่าอากาศยานนานาชาติท่าอากาศดูไบ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
|เวลา 09.40 น.. – 18.55 น.
หมายเหตุ: โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสมทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ และเหตุสุดวิสัยต่างๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า เช่น บางสถานที่ในยุโรปอาจปิดในวันอาทิตย์ หรืออาจะมีการปิดปรับปรุง หรืออาจทำการจองไม่ได้เนื่องจากต้องรอกรุ๊ปคอนเฟิร์มก่อนทำการจอง หากวันเดินทางตรงกับวันเหล่านี้ โดยทางบริษัทฯจะคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ และขอขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรมโดยแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า หากทราบเวลาและสถานที่ที่แน่นอนก่อนเดินทาง
เหตุผลที่คุณควรเลือก ทัวร์ยุโรป GRAND ITALY | เส้นทาง มิลาน – โบโลญญ่า – ฟลอเร้นซ์ – เซียน่า – นาโปลี – โรม – วาติกัน นั่นคือราได้พาคุณผจญภัยผ่านเส้นทางน้อยคนรู้จักที่มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครในยุโรประหว่างการท่องเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์, ดังนั้นเรามาสรุปกัน!
ประสบการณ์ UNSEEN: การท่องเที่ยวนี้นำเสนอ UNSEEN ที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อน โดยเริ่มจากสวิตเซอร์แลนด์ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงามและอารมณ์ร่วมสมัย แล้วลุยเข้าสู่เมืองเยอรมนีที่น่าตื่นตาตื่นตา และสิ้นสุดทริปของคุณที่ออสเตรียที่อัปสกายและเงียบสงบ
เส้นทางน้อยคนรู้จัก: เส้นทางนี้ไม่ได้รู้จักมากนัก ซึ่งทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่และประสบการณ์ที่เงียบสงบและน้อยคนคาใจ ที่ไม่รบกวนจากการแตะต้องของนักท่องเที่ยวมากมาย
ความหลากหลาย: จากธรรมชาติที่งดงามของสวิตเซอร์แลนด์ ถึงเมืองสุดเท่แห่งเยอรมนีและความเงียบสงบของออสเตรีย การท่องเที่ยวนี้เสมือนการผจญภัยผ่านหลายมิติของยุโรปที่น่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด
ด้วยการเดินทางที่ไม่เหมือนใครและประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่สามแผ่นดินนี้เสนอ ทัวร์ยุโรปเมืองรองนี้จะทำให้คุณพบกับสิ่งที่ UNSEEN และเป็นครั้งที่คุณจะประทับใจอย่างแท้จริงในการเดินทางของคุณในยุโรปในที่สุด!
คลิ๊กที่รูป เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์
เดินทางวันที่ :
✈️ 11 – 20 กุมภาพันธ์ 2568
✈️ 15 – 24 มีนาคม 2568
📅วันจักรกรี 05 – 14 เมษายน 2568
📅วันแรงงาน 30 พ.ค. – 08 มิ.ย. 2568
ไฮไลต์ที่เที่ยว :
🗼 ล่องแม่น้ำแซนชมเมือง
🏔️ อิสระเที่ยวเมืองเซอร์แมท
🛶 เวนิสราชินีแห่งเอเดรียติก
🚅 นั่งรถไฟความเร็วสูง 2เส้นทาง
🐌 หอยเอสคาโก้
🫕 ซีสฟองดูวส์
🍝 สปาเก็ตตี้หมึกดำ
🇹🇭 พิเศษอาหารไทยในยุโรป
🏨 พักโรงแรม 3 – 4 ดาว
🧳 ครบ 10 ท่านเดินทางทันที
✈ บิน5ดาว Emirates Full Service
🏷️ ราคารวมทุกอย่างแล้ว
แชทไลน์กับเรา โทรสอบถาม
เดินทางวันที่ :
✈️ 14 – 19 มกราคม 2568
✈️ 12 – 17 กุมภาพันธ์ 2568
✈️ 25 – 30 มีนาคม 2568
✈️ 10 – 15 เมษายน 2568
ไฮไลต์ที่เที่ยว :
⭐️ชมโชว์ IMPRESSION LIJIANG
⭐️เมืองโบราณแชงกรีล่า
⭐️ช่องแคบเสือกระโจน
⭐️วัดลามะซงจ้านหลิน
⭐️หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน
⭐️ธารน้ำแข็งภูเขาหิมะมังกรหยก
⭐️นั่งรถไฟความเร็วสูง
🥓สุกี้หมาล่า
🌬️ฟรีออกซิเจนท่านละ1กระป๋อง
🍽️เสริฟอาหารทุกมื้ออย่างมีระดับ
🛍️ช้อปปิ้งหนานผิงเจีย
🏨พักโรงแรม 4 – 5 ดาว
🧳 ครบ 10 ท่านเดินทางทันที
✈ บินตรงการบินไทย Full Service
แชทไลน์กับเรา โทรสอบถาม