Contact Us On 02 676 3303 contact@pkgjourney.com

ทัวร์ยุโรป แกรนด์ เยอรมัน  | 9 วัน 6 คืน | EUR55_EK

0

ทัวร์ยุโรป แกรนด์ เยอรมัน  | เส้นทางแฟรงก์เฟิร์ต - โคโลญ - เบอร์ลิน - พ็อทซ์ดัม - โรเธนเบิร์ก - มิวนิค

พาท่าน ทัวร์ยุโรป เยอรมัน  |  เส้นทางแฟรงก์เฟิร์ต – โคโลญ – เบอร์ลิน – พ็อทซ์ดัม – โรเธนเบิร์ก – มิวนิค
คุณเคยเสมือนตัวอยู่ในภาพวาดที่สวยงามของยุโรป เมืองหลักที่ทุกคนรู้จักอย่างมิวนิคหรือปารีส แต่วันนี้เราจะพาคุณผจญภัยใน UNSEEN ทัวร์ยุโรปเมืองรอง ผ่านเส้นทางที่น้อยคนรู้จัก: สวิตเซอร์แลนด์ – เยอรมนี – ออสเตรีย เริ่มต้นการเดินทางที่เมืองสวิตเซอร์แลนด์ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงามและอารมณ์ร่วมสมัย แล้วลุยเข้าสู่เมืองเยอรมนีที่น่าตื่นตาตื่นใจและสุดเท่กัน และสิ้นสุดทริปของคุณที่ออสเตรียที่อัปสกายและเงียบสงบ พร้อมกับประสบการณ์ UNSEEN ที่ไม่เคยมีใครได้ลองมาก่อน!

 

เมืองลูเซิร์น (Luzern)

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของประเทศ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาที่นี่ ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้

 

 เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg)

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) พาท่านขึ้นสู่ ยอดเขาทิสลิส (Titlis) โดยกระเช้าหมุนแบบ 360 องศา ที่ความสูง 3,239 เมตร เข้าชม ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Grotto) ที่ไม่เคยละลาย ชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก

 

 

ดูแลที่พักท่านโดยโรงแรม 3 Stars Hotel

  • พักในเมือง : เดินเล่นได้  ใกล้สถานี ช้อปปิ่งสะดวกลดระยะเวลาเดินทางเข้าเมือง ไม่ต้องรีบกลับที่พัก

(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีมีงานเทรดแฟร์หรือเทศกาล)

 

เมืองเซนต์ กัลแลน (St.Gallen)

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) อีก 1 เมืองที่มีความเก่าแก่ และสวยงามเป็นอย่างมากจนได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลก ให้ท่านได้ เดินเล่นอิสระในตัวเมือง ซึ่งมีร้านค้ามากมายรวมถึงร้านของฝากต่างๆ เคล้ากับบรรยากาศของบ้านเรือนที่มีความสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย

 

เมืองวาดุซ (Vaduz)

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศ ลิกเตน สไตน์ (Liechtenstein) เป็นประเทศเล็กๆ มีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น มีประชากรกว่า 5,100 คน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก

จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชมเมืองท่านจะได้พบกับ ศาลากลางเมืองวาดุซ (Vaduz City Hall) ตั้งอยู่บนถนนสาย Städtle ซึ่งเป็นย่านที่พักโรงแรม ร้านอาหารและคาเฟ่จำนวนมาก ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1932 ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี ค.ศ.1982 ถึง ค.ศ.1984 ด้านหน้าสามารถมองเห็นตราแผ่นดินซึ่งแกะสลักด้วยหินเหนือประตูทางเข้า นำท่านถ่ายรูปกับ วิหารเซนต์ฟลอริน (St. Florin Cathedral) สถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองวาดุซ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1874 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอโกธิค เป็นศูนย์กลางของคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกในวาดุซ

 

เมืองอินส์บรุค (Innsbruck)

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชม.) เป็นเมืองหลวงของรัฐทีโรล ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำอินน์ กลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ เป็นเมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ยักษ์ประกบอยู่ทางทิศเหนือ และทิศใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมสวยงาม

จากนั้นนำท่านเดินชม ย่านเมืองเก่า (Old Town) บ้านเรือนที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านสถาปัตยกรรมไว้ได้อย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นซุ้มดอกไม้ หรือไม้เลื้อยตามประตู บานหน้าต่าง นำท่านชมอีก 1 ในสัญญาลักษณ์ที่สำคัญของเมืองอินส์บรุคคือ หลังคาทองคำ (Golden Roof) หลังคาสไตล์บารอกผสมสไตล์โกธิคที่ยื่นออกมาจากระเบียงตกแต่งด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น สร้างในศตวรรษที่ 16 เพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครั้งที่ 2 ของจักรพรรดิแมกมิเลียนที่ 1 ชม หอคอยประจำเมืองอินส์บรุค (Stadtturm Innsbruck) ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าใกล้กับอาคารหลังคาทองคำ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1450 เดิมเป็นที่ให้สังเกตการณ์และยังเคยใช้เป็นที่คุมขังนักโทษอีกด้วย ปัจจุบันกลายเป็นหอชมวิวเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว อิสระให้ท่านได้ชมเมืองตาม

 

การ์มิช พาร์เทินเคียร์เชิน (Garmisch Partenkirchen)

 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองสวยในเขตเทือกเขาแอลป์ เป็นแหล่งเล่นสกีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เมืองแห่งนี้เคยเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาว 1936 บริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของซุกสปิตเซ่ ภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี และยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีชื่อดังอย่าง ริชชาร์ท ชเตราส์ ซึ่งจะมีการจัดเทศกาลดนตรีริชชาร์ท-ชเตราส์ในเดือนมิถุนายนของทุกปี

จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าลอยฟ้า Cable Car ขึ้นสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (Zugspitze) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ให้ท่านเก็บภาพประทับใจจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน บนความสูง 2,964 เมตร จากบนยอดเขาท่านจะมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบตัวซึ่งประกอบไปด้วยยอดเขากว่า 400 ยอดในเขตแดนออสเตรีย อิตาลี ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งปีคือ สกีในฤดูหนาวและเดินเขาในฤดูร้อน เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz), ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และแวงค์ (Wank)

 

เมืองมิวนิค

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) ให้ท่านได้อิสระที่บริเวณ จัตุรัสมารีนเพทส (Marienplatz) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย

 

หมู่บ้านปรีน (Prien am Chiemsee)

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)  ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดริมทะเลสาบคีมเซ หรือทะเลสาบบาวาเรีย ตั้งอยู่ใจกลางแคว้นบาวาเรียตอนเหนือระหว่างเมืองมิวนิคและซาล์สบวร์ก เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญในเขตภูมิภาคทะเลสาบคิมเซ่ เพื่อนำท่านล่องเรือไปยัง เกาะแฮเร็นกลางทะเลสาบคีมเซ่ เข้าสู่ พระราชวังแฮร์เรินคีมเซ (Herrenchiemsee Palace) ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบ เป็นพระราชวังที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของกษัตริย์ลุดวิกที่สองแห่งแคว้นบาเยิร์น โดยมีพระประสงค์ให้สร้างเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายน์ แต่ให้หรูหราอลังการกว่าด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยในยุคนั้นมีทั้งน้ำประปา น้ำพุ  ห้องน้ำ ห้องส้วม  และระบบทำน้ำร้อนในอ่างอาบน้ำอีกด้วย ให้ท่านได้เดินชมความงดงามภายในพระราชวังซึ่งไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายใน และไม่ควรพลาดชมโคมระย้าใน ห้องเสวย (Chandelier of Meissen porcelain) ซึ่งกล่าวว่าเป็นโคมระย้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

ฮัลล์สตัท (Hallstatt)

 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) หมู่บ้านมรดกโลกที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นหมู่บ้านมรกดกโลกที่สวยที่สุดในโลก  เมืองมรดกโลกที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาและทะเลสาบ ตั้งอยู่ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย มีประชากรไม่ถึง 1,000 คน แต่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนกว่า 800,000 คนต่อปี ด้วยทัศนียภาพตระการตา ที่ธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกันประกอบขึ้นทำให้ เป็นสถานที่ที่เป็น The Must ของยุโรปตะวันออก เลยทีเดียว ให้ท่านอิสระในการซึมซับบรรยากาศของเมืองมรดกโลก

 

เมืองเซ็นท์ วูฟกัง (St.Wolfgang)

อีกหนึ่งเมืองที่มีทะเลสาบที่สวย และยังเป็นเมืองตากอากาศที่เลื่องชื่อของประเทศอีกด้วย ให้ท่านได้ผ่อนคลายอริยบทกับธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่อยู่กันอย่างกลมกลืนและลงตัว

*หากพักที่ฮัลล์ตัทท์ จะพาท่านเที่ยวที่เซ็นท์วูฟกังก่อน

แต่หากพักที่เซ็นท์วูฟกัง จะพาท่านเที่ยวฮัลสตัทท์ก่อน**

**พีเรียดตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566  ถึง 31 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป

หากได้ที่พักที่ฮัลล์ตัทท์ ขอสงวนสิทธิ์พาท่านไปเมืองฮัลล์ตัทท์ โดยไม่แวะที่เมืองเซ้นท์วูฟกังเนื่องจากพระอาทิตย์ตกเร็วกว่าปกติ ท่านจะได้มีเวลาท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

 

เมืองกราซ (Graz)

 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) อยู่ทางตอนใต้ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศรองจากเมืองหลวงอย่างกรุงเวียนนา นำท่านชมหน้า พระราชวังเอกเกนเบิร์ก (Eggenberg Palace) พระราชวังออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิกและบาโรก เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2010 ตั้งตระหง่านอยู่ริมเชิงเขา

 

เขาชลอสเบิร์ก (Schlossberg Castle Hill)

เป็นเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ และเป็นที่ตั้งของ ป้อมปราการกลางเมือง รวมทั้ง หอนาฬิกาเก่าแก่ (Uhrturm) สัญลักษณ์ประจำเมือง ปัจจุบันเนินเขาแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะสามารถมองเห็นวิวเมืองได้กว้างไกล เป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงคาเฟ่ และร้านอาหารหลายแห่ง

 

ย่านเมืองเก่า (Old Town)

เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (Rathaus), พิพิธภัณฑ์อาวุธโบราณ, สุสานแห่งกษัตริย์ Ferdinand ที่ 2 โบสถ์ต่างๆ รวมทั้งหอนาฬิกาที่จะมีหุ่นไม้แต่งกายแบบท้องถิ่นออกมาเต้นระบำตามเสียงเพลง นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหารมากมายเรียงรายอยู่สองฝั่งถนน อิสระให้ท่านได้ซื้อของที่ระลึก และของฝากที่มีชื่อเสียงของเมือง

 

 SHOPPING TIME   |  Designer Parndorf Outlet

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เมืองให้เวลาท่านได้อิสระ ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมาก มาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS ,BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE , NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย อิสระท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

 

กรุงเวียนนา (Vienna)

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เมืองหลวงของออสเตรีย และดนตรีคลาสสิค เป็นเมืองที่โมสาร์ทมาพำนักในยุคที่รุ่งเรืองของชีวิต เมืองหลวงแสนสวยที่ติดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก

 

พระราชวังและสวนเชินน์บรุน (Palace and Gardens of Schonbrunn)

พระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บวร์ค สร้างแบบบาโรก คำว่าเชินน์บรุน นั้น มีความหมายว่า น้ำพุร้อนอันแสนสวยงาม โดยมีการริเริ่มสร้างในช่วงปี ค.ศ. 1569 ตัวอาคารในปัจจุบันนั้นสร้างและต่อเติมในสมัยของพระนางมาเรีย เทเรซ่า โดยมีพระราชประสงค์ให้มีความยิ่งใหญ่และสวยงามทัดเทียม พระราชวังแวร์ซายน์ของราชวงศ์บูร์บง และด้วยพระองค์ทรงโปรดสีเหลืองมากจึงได้มีการใช้สีเหลืองโทนพิเศษตกแต่ง และต่อมาสีเหลืองโทนนี้นั้นจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่าสีเหลืองเทเรซ่า

 

ถนนคาร์ทเนอร์ (Kartner Street)

 ถนนคนเดินแห่งแรกๆ ของยุโรป ที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโรมัน เป็น 1 ใน ถนนที่มุ่งสู่กรงโรมในสมัยนั้น เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ Strata Carinthianorum ก่อนจะถูกพัฒนามาเป็นถนนสายช้อปปิ้งในช่วงศตวรรษที่ 19 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านเรือนส่วนมากถูกทำลายทางการก็ได้สร้างตึกรามบ้านช่องที่รูปแบบเดิม

นอกจากนั้นยังมีศาสนสถานที่สำคัญบนถนนแห่งนี้อีกแห่งหนึ่ง คือ อาสนวิหารสเตฟาน (St. Stephen’s Cathedral) โบสถ์เก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1160 ตัวอาสนวิหารสร้างด้วยหินปูนมีความยาว 107 เมตร กว้าง 70 เมตร และ สูง 136.7 เมตร มีระฆังทั้งหมด 23 ใบ ใบใหญ่ที่สุดชื่อว่า ระฆังพุมเมริน ที่มีน้ำหนักถึง 20,130 กิโลกรัม ถือเป็นระฆังแบบแกว่งที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรีย และเป็นอันดับ 2 ของยุโรป รองจากระฆังปีเตอร์ ของเยรมันเท่านั้น กล่าวกันว่าบิโทเฟ่นรู้ตัวว่าตนสูญเสียการได้ยิน เพราะว่าเมื่อหันมองไปบนอาสนวิหารแห่งนี้แล้วเห็นนกบินออกจากหอระฆังแต่กลับไม่ได้ยินเสียงระฆังเหมือนเคย

 

ตั้งใจให้ทุกมื้อให้เป็นมื้อพิเศษของท่าน รวม 17 มื้อ

  • พิเศษ! เมนูสวิสฟองดู แบบจัดเต็ม
  • พิเศษ เมนูขาหมูเยอรมัน พร้อมเบียร์ ต้นตำหรับแท้
  • ภัตตาคารบนเขาซุกสปิตเซ่
  • Panorama Titlis restaurant ร้านอาหารที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาพร้อมกับวิวเทือกเขาแอลป์
  • ภัตตาคารอาหารจีน
  • ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
  • ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมเมนูปลาเทร้าช์
  • อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  • อาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม

**กรณีมีเหตุสุดวิสัย ที่ร้านปิดกะทันหัน หรือเกิดเหตุที่ทำให้ไม่สามารถใช้บริการร้านได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนร้านให้ โดยมีราคาและคุณภาพเทียบเท่าแทน**

การเดินทาง
| ดูแลท่านด้วยสายการบินเอมิเรตส์ (Emirates Airline)

  • เดินทางสบายอย่างมีระดับ
  • สายการบินหรู ระดับ 5 ดาว บริการประทับใจตลอดการเที่ยวบิน
  • เครื่องใหญ่กว่า ที่นั่งกว้าง
  • สัมผัสมื้ออาหารชั้นเลิศ เสริฟอาหารเครื่องดื่มตลอดการเดินทาง
  • อุปกรณ์เสริมครบทั้งจอดูหนัง, ผ้าห่ม ไม่ต้องชําระเพิ่ม !!

เป็นเที่ยวบินที่ให้บริการอยู่ในเครื่องบินที่สะดวกสบายและมีความเป็นอันดับสูง โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น เก้าอี้ที่สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ ระบบบันทึกความดันอากาศ ซองอากาศยานที่รับประทานอาหาร ชั้นเลิศ ระดับโลก อร่อยและคุณภาพ และบริการอื่นๆ ที่มุ่งเน้นให้คุณสบายในระหว่างการเดินทาง.

 

✈️ เที่ยวบิน EK 377 – EK 87  (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) 

| สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินนานาชาติดูไบ
| เวลา 02.00 น. – 06.00 น.

= รอเปลี่ยนเครื่อง =

| สนามบินนานาชาติดูไบ – สนามบินแมนเชสเตอร์
| เวลา 08.40 น..  –  13.20 น.

 

✈️ เที่ยวบิน EK 126 – EK 372  (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) 

| สนามบินนานาชาติกรุงเวียนนา – สนามบินนานาชาติดูไบ

|เวลา 21.55 น. – 06.35 น.

= รอเปลี่ยนเครื่อง =

| สนามบินนานาชาติดูไบ – สนามบินสุวรรณภูมิ

|เวลา 09.30 น.. – 18.40 น.

หมายเหตุ: โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสมทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ และเหตุสุดวิสัยต่างๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า เช่น บางสถานที่ในยุโรปอาจปิดในวันอาทิตย์ หรืออาจะมีการปิดปรับปรุง หรืออาจทำการจองไม่ได้เนื่องจากต้องรอกรุ๊ปคอนเฟิร์มก่อนทำการจอง หากวันเดินทางตรงกับวันเหล่านี้ โดยทางบริษัทฯจะคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ และขอขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรมโดยแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า หากทราบเวลาและสถานที่ที่แน่นอนก่อนเดินทาง

 

ดูแลท่านด้วย รถไฟ และ รถบัส | ปลอดภัยกว่ามืออาชีพกว่า นั่งรถน้อย เที่ยวได้เยอะขึ้น

 

  • เพราะเราใช้บริษัทรถบัสที่ถูกกฏหมายได้รับตรารับรองจากกระทรวงคมนาคมมาตรฐานยุโรป
    ดูแลคุณด้วยพนักงานขับรถมืออาชีพพร้อมระบบความปลอดภัยในรถ
  • เส้นทางเที่ยวนั่งรถไม่นาน เฉลี่ย 20นาที-3ชั่วโมง

 

บทสรุป

เหตุผลที่คุณควรเลือก ทัวร์ยุโรป เยอรมัน  นั่นคือราได้พาคุณผจญภัยผ่านเส้นทางน้อยคนรู้จักที่มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครในยุโรประหว่างการท่องเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์, เยอรมนี, และออสเตรีย ดังนั้นเรามาสรุปกัน!

  1. ประสบการณ์ UNSEEN: การท่องเที่ยวนี้นำเสนอ UNSEEN ที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อน โดยเริ่มจากสวิตเซอร์แลนด์ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยงามและอารมณ์ร่วมสมัย แล้วลุยเข้าสู่เมืองเยอรมนีที่น่าตื่นตาตื่นตา และสิ้นสุดทริปของคุณที่ออสเตรียที่อัปสกายและเงียบสงบ

  2. เส้นทางน้อยคนรู้จัก: เส้นทางนี้ไม่ได้รู้จักมากนัก ซึ่งทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่และประสบการณ์ที่เงียบสงบและน้อยคนคาใจ ที่ไม่รบกวนจากการแตะต้องของนักท่องเที่ยวมากมาย

  3. ความหลากหลาย: จากธรรมชาติที่งดงามของสวิตเซอร์แลนด์ ถึงเมืองสุดเท่แห่งเยอรมนีและความเงียบสงบของออสเตรีย การท่องเที่ยวนี้เสมือนการผจญภัยผ่านหลายมิติของยุโรปที่น่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด

ด้วยการเดินทางที่ไม่เหมือนใครและประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่สามแผ่นดินนี้เสนอ ทัวร์ยุโรปเมืองรองนี้จะทำให้คุณพบกับสิ่งที่ UNSEEN และเป็นครั้งที่คุณจะประทับใจอย่างแท้จริงในการเดินทางของคุณในยุโรปในที่สุด!

คลิ๊กที่รูป เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์

เที่ยวเมืองเก่าโคโลญ สะพานโฮเอินซอลเลิร์น เที่ยวพระราชวังซ็องซูซี แวร์ซายน์แห่งพ็อทซ์ดัม ช้อปปิ้งถนนแม็กซิมิเลียน Rothenberg ob der Tauber กำแพงเบอร์ลิน ลิ้มรสเมนูขาหมูเยอรมันแท้ ทัวร์ยุโรปสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ บินหรู 5 ดาว ประทับใจตลอดการเที่ยวบิน ที่นั่งกว้าง สัมผัสมื้ออาหารชั้นเลิศ เดินทางสบายอย่างมีระดับ บริการอย่างประทับใจ