low season ญี่ปุ่น ดีอย่างไร และไปเมืองไหนดี

low season ญี่ปุ่น

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังวางแผนไปเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่อยากไปในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ และอยากสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบ เราขอแนะนำให้คุณเลือกเดินทางไปในช่วง low season ญี่ปุ่น กันเลย เพราะการเลือกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเวลานี้ นอกจากจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่มากแล้ว ก็ยังทำให้คุณสามารถเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก สบาย อีกทั้งราคาที่พักและตั๋วเครื่องบินก็ยังถูกกว่าในช่วงไฮท์ซีซั่นอีกด้วย สำหรับเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจในช่วง low season ญี่ปุ่น ที่เราอยากแนะนำ ก็มีอยู่หลายแห่งด้วยกันดังนี้

• เกียวโต (Kyoto)

เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยวัดวาอาราม สวนญี่ปุ่น และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย การมาเที่ยวเกียวโตในช่วง low season ญี่ปุ่น จะทำให้คุณสามารถเที่ยวชมวัดและสถานที่สำคัญต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินใจ ไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนมากมาย อีกทั้งยังสัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดมีดังนี้

• • วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera)

วัดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ระเบียงไม้ที่ยื่นออกมาจากภูเขา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมวิวเมืองเกียวโตที่สวยงามได้แบบชัดเจน 

• • วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji)

วัดนี้เป็นที่รู้จักในนาม “วัดทอง” เนื่องจากตัวอาคารถูกหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหลัง และตั้งอยู่ท่ามกลางสวนที่ถูกตกแต่งอย่างงดงาม มีสระน้ำใสสะอาด อีกทั้งบรรยากาศยังร่มรื่นเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

• • ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha)

ศาลเจ้านี้มีเอกลักษณ์เด่นอยู่ที่ประตูโทริอิสีแดงที่เรียงรายกันเป็นเส้นทางยาวไปตามแนวภูเขาอินาริ นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางนี้เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามพร้อมไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ได้

• • พิพิธภัณฑ์เกียวโต (Kyoto National Museum)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่จัดแสดงศิลปะและวัตถุโบราณที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น

• • ย่านกิออน (Gion)

ย่านนี้เป็นย่านเกอิชาที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นและสัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่าญี่ปุ่นได้ที่นี่

• โอซาก้า (Osaka)

เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยและแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลาย ในช่วง low season ญี่ปุ่น เมืองโอซาก้าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาน้อย ทำให้สามารถเดินชมและช้อปปิ้งได้อย่างสะดวกสบาย เพลิดเพลินใจ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโอซาก้ามีดังนี้

• • ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

ปราสาทที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดย Toyotomi Hideyoshi มีสวนที่สวยงามอยู่บริเวณรอบปราสาท นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้เพลิดเพลิน

• • ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

ย่านบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง เต็มไปด้วยร้านอาหารและป้ายไฟนีออนสีสันสดใส ที่นี่มีอาหารอร่อยให้เลือกลิ้มลองมากมาย เช่นทาโกะยากิหรือโอโคโนมิยากิ เป็นต้น

• • ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น (Universal Studios Japan)

สวนสนุกที่มีธีมภาพยนตร์และการ์ตูนยอดนิยมมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานไปกับเครื่องเล่นและการแสดงต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินใจ

• • อควาเรียมไคยูกัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)

หนึ่งในอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่มีสัตว์น้ำหลากหลายชนิดให้รับชม รวมไปถึงปลาฉลามวาฬซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่อีกด้วย

• • ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market)

ตลาดสดที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลสดๆ ผักผลไม้ และอาหารอร่อยมากมาย ที่นี่เป็นแหล่งอาหารที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

• • หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku Tower)

หอคอยที่ตั้งอยู่ในย่านชินเซไก (Shinsekai) มีร้านอาหารและสถานบันเทิงมากมาย นอกจากนี้บนหอคอยยังสามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้อีกด้วย

• ฮอกไกโด (Hokkaido)

เมืองที่มีเกาะและธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ หรือสวนดอกไม้ หากเลือกเดินทางมาเที่ยวในช่วง low season ญี่ปุ่น คุณจะสามารถสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและความงดงามของธรรมชาติตามแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น

• • ซัปโปโร (Sapporo)

เมืองหลวงของฮอกไกโด เป็นที่รู้จักในเรื่องของเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ที่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) หอคอยซัปโปโร (Sapporo TV Tower) และตลาดนิโจ (Nijo Market) ที่นักท่องเที่ยวสามารถชิมอาหารทะเลสดๆ ได้

• • โอตารุ (Otaru)

เมืองท่าเก่าแก่ที่มีคลองโอตารุ (Otaru Canal) เป็นจุดเด่น ซึ่งในบริเวณนี้มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกในอาคารสไตล์โบราณให้เลือกช็อปปิ้งมากมาย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถลิ้มลองขนมหวานและอาหารทะเลสดๆ ที่นี่ได้อีกด้วย

• • ฮาโกดาเตะ (Hakodate)

เมืองท่าทางตอนใต้ของฮอกไกโด ที่มีวิวกลางคืนที่สวยงามจากภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate) นอกจากนี้ยังมีตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) ที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลสดๆ สุดแสนอร่อยหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว

• • บิเอะ (Biei)

เมืองที่มีภูมิทัศน์ของทุ่งหญ้าและทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่ทุ่งดอกไม้หลากสีจะบานสะพรั่ง ซึ่งหนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจของเมืองนี้คือ Blue Pond (Aoiike) 

• • ฟูราโน่ (Furano)

เมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องทุ่งดอกลาเวนเดอร์ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) จะเต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์สีม่วงและดอกไม้ชนิดอื่นๆ ที่สวยงามให้เที่ยวชมกันแบบเพลิดเพลิน

• • ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya)

ทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติชิโคะสึโทยะ (Shikotsu-Toya National Park) เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและแช่ออนเซ็น นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับการล่องเรือชมวิวทะเลสาบได้อีกด้วย

• ฟุกุโอกะ (Fukuoka)

เมืองที่มีวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลาย รสชาติน่าลิ้มลองมากมาย อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจให้เลือกเที่ยวชมในช่วง low season ญี่ปุ่น อยู่หลายแห่งด้วยกัน ดังนี้

• • ศาลเจ้าดาไซฟุ เทมมังกู (Dazaifu Tenmangu Shrine)

ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพเจ้าแห่งการศึกษา Sugawara no Michizane นักท่องเที่ยวมักมาขอพรให้ประสบความสำเร็จในด้านการเรียน

• • ฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower)

หอคอยสูง 234 เมตร ที่ให้ทัศนียภาพที่งดงามของเมืองฟุกุโอกะและอ่าวฮากาตะ โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกและตอนกลางคืน

• • ย่านเทนจิน (Tenjin)

แหล่งช้อปปิ้งและย่านบันเทิงที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Tenjin Core และ Tenjin Underground Shopping Mall ก็อยู่ในย่านนี้ด้วย

• • ย่านฮากาตะ (Hakata)

ย่านที่มีทั้งประวัติศาสตร์และความทันสมัย มีสถานที่น่าสนใจเช่น ศาลเจ้าคุชิดะ (Kushida Shrine) ตลาดฮากาตะ (Hakata Machiya Folk Museum) และ Canal City Hakata ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีการแสดงน้ำพุและร้านค้าให้เลือกช็อปปิ้งมากมาย

• • สวนโอโฮริ (Ohori Park)

สวนสาธารณะที่มีทะเลสาบขนาดใหญ่และทางเดินเล่นรอบๆ ทะเลสาบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีสวนญี่ปุ่น (Ohori Park Japanese Garden) ที่งดงามให้เที่ยวชมกันอีกด้วย

• นารา (Nara)

เมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเต็มไปด้วยวัดสำคัญต่างๆ มากมาย รวมไปถึงยังมีสวนสาธารณะที่เป็นเอกลักษณ์ให้เลือกเที่ยวชมอีกด้วย การมาเที่ยวเมืองนาราในช่วงที่คนไม่เยอะจะทำให้คุณสามารถสัมผัสกับความสงบและดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมีดังนี้

• • วัดโทไดจิ (Todaiji Temple)

วัดที่มีพระพุทธรูปไดบุตสึ (Great Buddha) ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งอาคารหลักของวัดแห่งนี้ยังเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

• • สวนกวางนารา (Nara Park)

สวนขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องกวางที่เดินเล่นอย่างอิสระ นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารกวางและถ่ายรูปกับกวางได้อย่างใกล้ชิด

• • ศาลเจ้าคะซุงะไทฉะ (Kasuga Taisha Shrine)

ศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีโคมไฟหินและโคมไฟทองแดงนับพันดวง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล Mantoro จะมีการจุดโคมไฟ ทำให้บรรยากาศที่นี่สวยงามมากเลยทีเดียว

• • พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา (Nara National Museum)

พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมศิลปวัตถุทางศาสนาและโบราณวัตถุสำคัญของญี่ปุ่นมากมาย โดยเฉพาะศิลปะทางพุทธศาสนา

• • วัดฮอริวจิ (Horyuji Temple)

วัดที่มีอาคารไม้เก่าแก่ที่สุดในโลก และยังเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกอีกด้วย สถานที่นี้เป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณ

การเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วง low season ญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวแต่ไม่ชอบที่จะต้องพบเจอคนจำนวนมากด้วยแล้ว การเดินทางมาเที่ยวในช่วงนี้ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

และสำหรับท่านไหนที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนกับบริษัท ทัวร์ญี่ปุ่น แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้บริการกับบริษัทไหนดี ขอแนะนำให้เข้ามาพูดคุยสอบถามรายละเอียดที่ บริษัท พีเคจี เจอร์นีย์ไลน์ ของเรากันดูก่อนได้เลย บริษัทของเราเปิดให้บริการมาอย่างยาวนานพร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพมากมาย รับรองว่าทริปการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนของคุณจะได้รับความสะดวก สบายตลอดการเดินทางแน่นอน