จังหวัด อิบารากิ Ibaraki

เส้นทางเที่ยว จังหวัด อิบารากิ ที่น่าสนใจ

จังหวัด อิบารากิ ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโตของประเทศญี่ปุ่น มีพรมแดนติดกับจังหวัดชิบะและจังหวัดฟุกุชิมะ รวมถึงทะเลทางทิศตะวันออกอีกด้วย และยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีเสน่ห์เต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย 

ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบาย จึงทำให้จังหวัดนี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลือกเดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมากในทุกปี โดยเฉพาะในช่วง ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม และเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน เพราะในช่วงเวลานี้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพพร้อมชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพวาดได้อย่างเพลิดเพลินใจ 

และในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปปักหมุด สถานที่ท่องเที่ยว อิบารากิ ยอดนิยม ที่ถ้าหากคุณได้มีโอกาสเดินทางมาเยือนจังหวัดอิบารากิ ต้องไม่ควรพลาด แต่จะมีสถานที่ไหนบ้างนั้น ตามเรามาดูพร้อมเก็บรายละเอียดกันได้เลย 

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัด อิบารากิ ญี่ปุ่น

การเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่ อิบารากิ นั้น คุณสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก เนื่องด้วยจังหวัดนี้อยู่ไม่ไกลจากเมืองโตเกียวมากนัก และใช้เวลาในการเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้นก็จะได้พบกับความสวยงามและสัมผัสบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจกันแล้ว ซึ่งในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของ อิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น ที่อยากแนะนำมีหลายแห่งด้วยกันดังนี้

• ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park)

ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค คือ สวนสาธารณะริมทะเลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ที่นี่จะเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้หลากสีสันที่เปลี่ยนแปลงไปทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกเนโมฟิลาจะบานสะพรั่งเป็นสีฟ้าครามเต็มท้องทุ่ง สวยงามเป็นอย่างมาก นอกจากนี้สวน ฮิตาจิ ซีไซด์ ยังเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการจัดแสดงดอกไม้ที่มีให้เลือกชมหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งดอกเนโมฟิลา (Nemophila) ที่มีสีฟ้าสดใสและทุ่งดอกคอสมอส (Cosmos) ที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ร่วง รวมไปถึงยังมีพื้นที่สำหรับเด็กๆ ให้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมที่สนุกสนาน เช่น เครื่องเล่น หรือชิงช้าสวรรค์ อีกด้วย

• สวนไคราคุเอน (Kairakuen Garden)

สวนไคราคุเอน เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร และเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในสาม สวนที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการจัดแสดงดอกบ๊วย (ume) ที่เป็นรู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงามของดอกบ๊วยที่จะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาวและต้นฤดูใบไม้ผลิได้อย่างเพลิดเพลิน รวมถึงภายในสวนแห่งนี้ยังมีทั้งบ่อน้ำ ต้นไม้ใหญ่ และศาลาสำหรับพักผ่อน ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาแวะชม และพักผ่อนหย่อนใจกันอีกด้วย 

• ปราสาทมิโตะ (Mito Castle)

ปราสาทมิโตะ เคยเป็นที่ตั้งของครอบครัวเจ้าชายแห่งมิโตะในศตวรรษที่ 17 ถึง 19 ซึ่งในปัจจุบันปราสาทนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ซากปรักหักพังจากอดีตเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองและความยิ่งใหญ่ของยุคก่อนด้วย โดยนักท่องเที่ยวจะยังคงได้เห็นหอคอยปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ แต่ก็ยังคงความสวยงามและมีมนต์ขลังเหมือนได้หลุดเข้าไปในยุคนั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้บริเวณใกล้กับปราสาทจะมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของปราสาทมิโตะและวัตถุโบราณที่เกี่ยวข้องให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาแวะชมกันอีกด้วย ซึ่งการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้จะทำให้คุณได้รู้จักกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของยุคซามูไรได้ดีขึ้นมากเลยทีเดียว

• ศาลเจ้าคาชิมะ (Kashima Jingu Shrine)

ศาลเจ้าคาชิมะ คือ ศาลเจ้าเก่าแก่ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน มากกว่า 1,200 ปีเลยทีเดียว ที่นี่เป็นศาลเจ้าของเทพเจ้าคาชิมะ โนะ คาเมะ (Kashima no Kami) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม สายฟ้า และการต่อสู้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นนิยมมาสักการะเพื่อขอพรโชคลาภและความโชคดีให้กับชีวิต จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือ ประตูศาลเจ้าที่ทำจากไม้ซุง หรือที่เรียกกันว่า ประตูโทอิริ เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สวยงามเป็นอย่างมาก สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสักการะและขอพรเทพเจ้าที่ศาลเจ้าคาชิมะ คุณสามารถร่วมทำพิธีกรรมที่เรียกว่า “โอะมิซะงิ” (Omizumo) โดยการชำระล้างมือและปากที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่จะขอพรจากเทพเจ้าเพื่อให้เกิดสิริมงคลได้อีกด้วย

• ภูเขาสึคุบะ (Mount Tsukuba)

ภูเขาสึคุบะ คือ ภูเขาคู่ที่มีความสำคัญอย่างมากทางวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวที่สวยงามได้จากบนยอดเขา หรือจะนั่งกระเช้าลอยฟ้าชมวิวก็ได้ แม้ว่าภูเขาทสึคุบะจะมีความสูงแค่เพียง 877 เมตร แต่ต้องบอกว่าทัศนียภาพนั้นสวยงามเป็นอย่างมาก และด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามนี้เองจึงทำให้ที่นี่ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก เพราะจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม และชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สงบ เรียบง่าย ได้อย่างเพลิดเพลินใจ นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ภูเขาทึคุบะมีศาลเจ้าและวัดที่สำคัญ เช่น ศาลเจ้าทึคุบะ (Tsukuba Shrine) ให้คุณได้เข้ามากราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตอีกด้วย

• สะพานแขวนริวจิน (Ryujin Big Suspension Bridge)

สะพานแขวนริวจิน คือ สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น เป็นสะพานข้ามแม่น้ำคูโรมิ และเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหุบเขาได้อย่างชัดเจน สะพานแห่งนี้มีความยาวประมาณ 375 เมตรและตั้งอยู่สูงจากพื้นดินถึง 100 เมตร นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสกับธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีและทิวทัศน์ที่งดงามได้อย่างเพลิดเพลิน และด้วยความสูงและความยาวของสะพาน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยไม่น้อยเลยทีเดียว ที่สำคัญเลยก็คือ สะพานแขวนริวจิน จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวเลือกถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย 

สรุป อิบารากิ

นอกจากแหล่ง ท่องเที่ยว อิบารากิ ยอดนิยม ที่เป็นจุดหมายปลายทางของคนทั่วโลกแล้ว จังหวัดอิบารากิ ยังมีการจัดเทศกาลและประเพณีต่างๆ อีกด้วย เช่น เทศกาล Tanabata ที่จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยดาวที่สวยงาม หรือเทศกาลนมัสการศาลเจ้าที่จะมีการจัดขึ้นตลอดทั้งปี รวมถึงอาหารท้องถิ่นในจังหวัดอิบารากิ ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเลที่สดใหม่ หรือข้าวห่อสาหร่ายรสชาติอร่อย และอาหารพื้นเมืองอื่นๆ เช่น ขนมหวานจากถั่วแดง เป็นต้น เรียกได้ว่าจังหวัดอิบารากิ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว 

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจและกำลังวางแผนเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเมืองไหนดี ขอแนะนำจังหวัดอิบารากิแห่งนี้ รับรองว่าคุณจะรู้สึกประทับใจและต้องกลับมาเยือนซ้ำบ่อยๆ อย่างแน่นอน และสำหรับคนไหนที่อยากเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนกับ บริษัททัวร์ หรือ ทัวร์ญี่ปุ่น สุดคุ้มของเรา ก็เข้ามาติดต่อพูดคุยรายละเอียดกับทีมงานมืออาชีพของ บริษัท พีเคจี เจอร์นีย์ไลน์ กันได้เลย เราพร้อมให้บริการทุกเวลา