Contact Us On 02 676 3303 contact@pkgjourney.com

เที่ยวรอบเมืองมัตสึเอะ ( Matsue ) ด้วยรถบัส แสนสะดวก

เที่ยวรอบเมืองมัตสึเอะ (Matsue)ด้วยรถบัส แสนสะดวก   🚍 Matsue Lakeline Sightseeing Bus คือรถบัสสไตล์เรโทร ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะรถจะวิ่งผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ในเมืองมัตสึเอะ (Matsue) ของจังหวัดชิมาเนะ (Shimane) ทำให้เดินทางเที่ยวได้สะดวกสบายมากๆ

🚏 โดยรถบัสจะออกเดินทางทุกๆ 30 นาที จากป้ายรถบัส หน้าสถานี JR Matsue แล้ววิ่งวนไปรอบเมืองสามารถแวะลงตามป้ายต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว

🎫 โดยสามารถเลือกซื้อตั๋วแบบขึ้นลงครั้งเดียว หรือตั๋วเหมาจ่าย ที่สามารถขึ้นลงรถบัสได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตามที่กำหนด มีให้เลือกทั้งแบบ 1 วัน และ 2 วัน

*ตั๋วเหมาจ่าย มีจำหน่ายทางออนไลน์เท่านั้นที่ https://matsue-bus.jp/topics/10313

คลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม

เที่ยวรอบเมืองมัตสึเอะ (Matsue) ด้วย Matsue Lakeline Sightseeing Bus

Matsue Lakeline Sightseeing Bus เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายและประหยัดสำหรับการสำรวจเมืองมัตสึเอะ เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันงดงาม รถบัสนี้ออกแบบมาเพื่อนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ โดยมีเส้นทางครอบคลุมสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในเมือง

รายละเอียดสำคัญ

  1. เส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยวที่ครอบคลุม

    • รถบัสวิ่งเป็นวงกลมรอบเมือง ครอบคลุมจุดสำคัญ เช่น
      • ปราสาทมัตสึเอะ: หนึ่งในปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่น
      • ทะเลสาบชินจิ (Lake Shinji): สถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
      • พิพิธภัณฑ์ศิลปะอะดาจิ (Adachi Museum of Art)
      • ย่านซามูไร Buke Yashiki: ย่านที่เต็มไปด้วยบ้านซามูไรโบราณ
      • ศาลเจ้า Yaegaki และ ศาลเจ้า Kumano Taisha
  2. เวลาเดินรถ

    • รถบัสให้บริการทุกวันตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น
    • มีความถี่ประมาณทุก 20-30 นาที
  3. ตั๋วโดยสารและค่าใช้จ่าย

    • มีตัวเลือกทั้งตั๋วแบบเที่ยวเดียวและตั๋วเหมารายวัน
    • ตั๋วเหมารายวัน (ประมาณ 500-600 เยน) ให้คุณขึ้น-ลงไม่จำกัดตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก
    • บางแห่งมีส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ เมื่อแสดงตั๋ว Lakeline
  4. ความสะดวกสบาย

    • รถบัสออกแบบให้สะดวกต่อการขึ้น-ลง มีข้อมูลเส้นทางเป็นภาษาอังกฤษและภาษาต่าง ๆ
    • สามารถชมวิวรอบเมืองจากในรถได้
  5. เหมาะสำหรับใคร

    • นักท่องเที่ยวที่มีเวลาจำกัด
    • ผู้ที่ต้องการเที่ยวแบบไม่ต้องเดินมาก
    • คนที่สนใจวัฒนธรรมและธรรมชาติของเมืองมัตสึเอะ

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  • หากมีเวลา ควรเลือกตั๋วเหมารายวันเพื่อแวะเที่ยวได้เต็มที่
  • วางแผนล่วงหน้า โดยดูตารางเวลารถบัสเพื่อประหยัดเวลา
  • อย่าลืมลองอาหารท้องถิ่น เช่น โซบะสไตล์มัตสึเอะ

การใช้ Matsue Lakeline Sightseeing Bus เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการสัมผัสเสน่ห์ของมัตสึเอะอย่างเต็มที่ในวันเดียว! 🌸

🏯 ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) 1 ใน 12 ปราสาทที่ยังคงความดั้งเดิมมาจนถึงปัจจุบัน ได้รับการยกย่องเป็น “สมบัติประจำชาติญี่ปุ่น” จากชั้นบนสุดของหอคอยปราสาท สามารถชมวิวเมืองได้แบบ 360 องศา และยังมีกิจกรรม “ล่องเรือโฮริคะวะ (Horikawa Sightseeing Boat)” ไปตามคูน้ำรอบๆ ตัวปราสาท เพื่อชมวิวสวยๆ โดยรอบได้อย่างเต็มตา

คลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม

ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองมัตสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ และเป็นหนึ่งใน 12 ปราสาทดั้งเดิม (ปราสาทที่ยังคงโครงสร้างเดิมตั้งแต่สร้างเสร็จ) ที่หลงเหลืออยู่ในประเทศญี่ปุ่น

รายละเอียดที่สำคัญ

1. ประวัติศาสตร์

  • ปราสาทมัตสึเอะสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1611 โดย ฮอร์อิโอะ โยชิฮารุ ขุนนางผู้ปกครองพื้นที่ในสมัยเอโดะ
  • ปราสาทนี้เรียกอีกชื่อว่า “ปราสาทดำ” (Black Castle) เนื่องจากโครงสร้างไม้ที่มีสีเข้ม
  • แม้ว่าจะถูกทำลายบางส่วนในช่วงการฟื้นฟูเมจิ (Meiji Restoration) แต่ตัวหอคอยหลัก (Tenshu) ยังคงรอดพ้นจากการรื้อถอน
  • ในปี 2015 ปราสาทมัตสึเอะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น สมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ (National Treasure)

2. โครงสร้างและสถาปัตยกรรม

  • ปราสาทสูง 5 ชั้น (แต่ภายในแบ่งเป็น 6 ชั้น) และสร้างด้วยไม้ตามแบบดั้งเดิม
  • มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “ปราสาทแห่งยุทธศาสตร์” เนื่องจากออกแบบมาเพื่อการป้องกัน โดยมีการเสริมความแข็งแรงของกำแพงและการจัดการตำแหน่งของป้อมยาม
  • บริเวณรอบ ๆ มี คูน้ำ (Moat) และสวนขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบปราสาท

3. จุดเด่น

  • วิวจากยอดปราสาท: สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของทะเลสาบชินจิ เมืองมัตสึเอะ และภูเขาโดยรอบ
  • พิพิธภัณฑ์ในปราสาท: ภายในจัดแสดงวัตถุโบราณ เช่น ชุดเกราะ ดาบ และแผนที่ทางประวัติศาสตร์
  • คูน้ำรอบปราสาท: นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมรอบคูน้ำเพื่อสัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่า

4. กิจกรรมและเทศกาล

  • เทศกาลดอกซากุระ (ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน): บริเวณรอบปราสาทเป็นจุดชมซากุระที่สวยงาม
  • เทศกาลโคมไฟ (Matsue Suitoro Festival): จัดในฤดูใบไม้ร่วง มีการประดับโคมไฟรอบบริเวณปราสาท

5. การเข้าชม

  • เวลาทำการ: 8:30 – 18:30 (เวลาปิดอาจแตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล)
  • ค่าเข้าชม: ประมาณ 680 เยน (รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์)
  • การเดินทาง: ห่างจากสถานีรถไฟ Matsue Station ประมาณ 15 นาที โดยรถบัส Matsue Lakeline Sightseeing Bus

6. เหตุผลที่ควรเยี่ยมชม

  • เป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสมบูรณ์
  • สัมผัสบรรยากาศของยุคซามูไร
  • เป็นจุดชมวิวและสถานที่ถ่ายภาพที่งดงาม

ปราสาทมัตสึเอะไม่เพียงแต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมัตสึเอะที่สะท้อนวัฒนธรรมและความงดงามของญี่ปุ่นในอดีต 🌸

คลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม

กิจกรรมล่องเรือโฮริคะวะ (Horikawa Sightseeing Boat) เป็นกิจกรรมยอดนิยมในเมืองมัตสึเอะ (Matsue) ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ล่องเรือผ่านคูน้ำรอบ ปราสาทมัตสึเอะ และสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของญี่ปุ่นดั้งเดิม


รายละเอียดกิจกรรม

1. เส้นทางล่องเรือ

  • การล่องเรือจะพาผู้โดยสารเดินทางผ่านคูน้ำที่ล้อมรอบปราสาทมัตสึเอะ
  • เส้นทางยาวประมาณ 3.7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
  • ระหว่างการเดินทาง จะผ่านจุดสำคัญ เช่น
    • ปราสาทมัตสึเอะ
    • ย่านซามูไรโบราณ
    • สะพานโบราณ
    • สวนและทิวทัศน์ธรรมชาติรอบเมือง

2. เรือและบรรยากาศ

  • เรือมีหลังคาที่สามารถเลื่อนขึ้น-ลงได้ เพื่อให้ผ่านใต้สะพานเตี้ย ๆ ได้สะดวก
  • ผู้โดยสารสามารถนั่งในเรือที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีเสื่อทาทามิและเบาะรองนั่ง
  • มีไกด์นำเที่ยว (ภาษาญี่ปุ่น) ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และสถานที่ที่ผ่านระหว่างทาง (บางจุดมีออดิโอไกด์ภาษาอังกฤษ)

3. ฤดูกาลที่เหมาะสม

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน): ชมดอกซากุระบานรอบคูน้ำ
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): เพลิดเพลินกับความเขียวขจีและดอกไม้
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนน้ำ
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): บรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติก

4. เวลาทำการ

  • เวลาเปิดบริการ:
    • ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน: 9:00 – 17:00
    • ฤดูหนาว: 9:00 – 16:00
  • เรือออกทุก 15-20 นาที
  • เรือเปิดให้บริการตลอดปี ยกเว้นวันหยุดพิเศษ

5. ค่าใช้จ่าย

  • ผู้ใหญ่: 1,200 เยน
  • เด็ก: 600 เยน
  • ตั๋วเหมารายวัน (Hop-on Hop-off): สามารถขึ้น-ลงเรือได้หลายครั้งในวันเดียว

6. จุดขึ้นเรือ

  • มี 3 ท่าเรือหลัก รอบเมือง ได้แก่
    • ท่าเรือหน้า ปราสาทมัตสึเอะ
    • ท่าเรือใกล้พิพิธภัณฑ์ศิลปะโบราณ
    • ท่าเรือใกล้ย่านซามูไรโบราณ

เหตุผลที่ควรลองกิจกรรมนี้

  1. สัมผัสประวัติศาสตร์: ได้เรียนรู้เกี่ยวกับปราสาทมัตสึเอะและเมืองเก่าจากมุมมองที่แตกต่าง
  2. บรรยากาศโรแมนติก: เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและความสงบ
  3. ประสบการณ์พิเศษ: การล่องเรือผ่านสะพานเตี้ย ๆ เป็นจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร
  4. เหมาะกับทุกวัย: เด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุก็สามารถเพลิดเพลินได้

กิจกรรมล่องเรือโฮริคะวะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดื่มด่ำกับบรรยากาศของมัตสึเอะและการผ่อนคลายจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน 🌸

⛩️ ศาลเจ้ายะเอะกาคิ (Yaegaki Shrine) เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์เรื่องความรัก โดยเฉพาะการทำนายดวงความรักใน “บึงกระจก (Kagami no ike)” ที่อยู่ภายในศาลเจ้า โดยวางเหรียญเงินบนกระดาษสำหรับเสี่ยงทาย แล้วนำไปลอยบนน้ำใน “บึงกระจก” ตั้งจิตอธิษฐาน เชื่อกันว่ายิ่งกระดาษเสี่ยงทายจมลงเร็วเท่าไหร่ ก็จะสมหวังในเรื่องความรักเร็วเท่านั้น

คลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม

ศาลเจ้ายะเอะกาคิ (Yaegaki Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ในเมืองมัตสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ ที่มีชื่อเสียงในด้านการขอพรเกี่ยวกับความรักและชีวิตคู่ อีกทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับเทพปกรณัมของญี่ปุ่น ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับผู้ที่แสวงหาโชคด้านความสัมพันธ์


รายละเอียดสำคัญ

1. ประวัติศาสตร์และความสำคัญ

  • ศาลเจ้าแห่งนี้อุทิศให้กับเทพเจ้า ซุซาโนะโอะ โนะ มิโคโตะ และ เจ้าหญิงคุชินาดะ ซึ่งในตำนานเป็นคู่สามีภรรยาที่เอาชนะอสูรยามาตะ โนะ โอโรจิ (มังกร 8 หัว) และสร้างครอบครัวอย่างมีความสุข
  • ศาลเจ้าสร้างขึ้นในพื้นที่ที่เชื่อว่าเป็นที่พำนักของเทพเจ้าทั้งสองหลังจากแต่งงาน

2. สถาปัตยกรรมและจุดเด่น

  • ตัวศาลเจ้ามีโครงสร้างไม้เรียบง่ายแต่สง่างาม แสดงถึงสถาปัตยกรรมชินโตดั้งเดิม
  • ลานด้านหน้ามีบรรยากาศสงบ ล้อมรอบด้วยต้นไม้เก่าแก่
  • มีแผ่นป้ายขอพร (Ema) ซึ่งมักตกแต่งด้วยข้อความและคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรัก

3. กิจกรรมและการขอพรเกี่ยวกับความรัก

  • แผ่นป้าย Ema: นักท่องเที่ยวสามารถเขียนคำอธิษฐานบนแผ่นป้ายและแขวนไว้ในบริเวณศาลเจ้า
  • แผ่นทดสอบความรัก (Omokage-no-ike):
    • บ่อศักดิ์สิทธิ์ที่นักท่องเที่ยวสามารถนำกระดาษพิเศษ (Omikuji) ซึ่งเขียนคำอธิษฐานมาวางบนผิวน้ำ
    • กระดาษจะลอยและค่อย ๆ จมลง ขึ้นอยู่กับโชคในความรักของคุณ
    • หากกระดาษลอยนาน แปลว่าความรักของคุณอาจใช้เวลาสักหน่อยในการสมหวัง

4. พิธีกรรมและเทศกาล

  • พิธีแต่งงาน: ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับพิธีแต่งงานในแบบชินโต
  • เทศกาลท้องถิ่น: มีการจัดงานเทศกาลในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง

5. การเข้าชม

  • เวลาทำการ: 8:30 – 17:00
  • ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้าชม (แต่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อ Omikuji หรือแผ่นป้าย Ema)

6. การเดินทาง

  • จากสถานี Matsue Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที โดยรถบัส หรือโดยการขับรถ
  • ศาลเจ้าอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น ปราสาทมัตสึเอะ

เหตุผลที่ควรมาเยือน

  1. ตำนานความรัก: สถานที่นี้เหมาะสำหรับคู่รักหรือผู้ที่ต้องการขอพรเกี่ยวกับความสัมพันธ์
  2. บรรยากาศสงบ: ตัวศาลเจ้าล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ทำให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย
  3. ประสบการณ์พิเศษ: กิจกรรมลอย Omikuji บนน้ำเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
  4. เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น: ได้สัมผัสความเชื่อและตำนานท้องถิ่น

ศาลเจ้ายะเอะกาคิไม่เพียงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับผู้ที่แสวงหาความรักและความสงบในจิตใจ 💕

คลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม

บึงกระจก (Kagami no Ike) หรือ “บ่อน้ำกระจก” เป็นสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดภายใน ศาลเจ้ายะเอะกาคิ (Yaegaki Shrine) ในเมืองมัตสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ บึงนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการใช้ทำนายดวงชะตาด้านความรักและเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับตำนานของเทพเจ้าซุซาโนะโอะและเจ้าหญิงคุชินาดะ


รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับบึงกระจก

1. ประวัติและความเชื่อ

  • บึงกระจกตั้งอยู่ด้านหลังศาลเจ้าในพื้นที่ที่เชื่อว่าเป็นสถานที่พำนักของเทพเจ้า ซุซาโนะโอะ โนะ มิโคโตะ และ เจ้าหญิงคุชินาดะ หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกัน
  • น้ำในบึงนี้ใสสะอาดและสงบนิ่งจนสะท้อนภาพเสมือนกระจก ทำให้ได้รับการเรียกขานว่า “Kagami no Ike” (แปลว่า บ่อน้ำกระจก)
  • เชื่อกันว่าน้ำในบึงศักดิ์สิทธิ์นี้สามารถใช้ทำนายดวงชะตาและโชคชะตาเกี่ยวกับความรักได้

2. การทำนายความรัก (Love Fortune-Telling)

หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนคือการใช้ กระดาษทำนายดวง (Omikuji) บนน้ำในบึงกระจก

  • ขั้นตอนการทำนาย:

    1. ซื้อกระดาษ Omikuji พิเศษจากศาลเจ้า
    2. เขียนชื่อของตัวเองและชื่อคนที่ตนสนใจ (ถ้ามี) ลงบนกระดาษ
    3. วางกระดาษลงบนน้ำในบึงกระจก
    4. รอให้กระดาษค่อย ๆ จมลง
  • ความหมายของเวลาและการจมลงของกระดาษ:

    • หากกระดาษจมลงเร็ว แปลว่าความรักจะสมหวังในเวลาอันใกล้
    • หากกระดาษลอยอยู่นาน แปลว่าอาจต้องใช้เวลาและความพยายาม
    • ทิศทางที่กระดาษลอยไปยังบ่งบอกถึงต้นทางหรือปลายทางของความรัก

3. ความงดงามของบึง

  • น้ำในบึงกระจกมีความใสและสะท้อนเงาของธรรมชาติรอบ ๆ อย่างสวยงาม
  • บึงล้อมรอบด้วยต้นไม้เก่าแก่ สร้างบรรยากาศสงบและศักดิ์สิทธิ์
  • เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนและถ่ายภาพ

4. ความเชื่อเกี่ยวกับพลังแห่งศักดิ์สิทธิ์

  • น้ำในบึงกระจกถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพลังจากเทพเจ้า
  • เชื่อกันว่าการทำพิธีขอพรหรือการลอยกระดาษ Omikuji บนน้ำในบึงนี้จะช่วยส่งเสริมความรักและความสัมพันธ์

5. การเข้าชม

  • เวลาทำการ:
    • สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิด-ปิดของศาลเจ้า (8:30 – 17:00)
  • ค่าใช้จ่าย:
    • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมบึง
    • กระดาษ Omikuji มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย (ประมาณ 100-200 เยน)

เหตุผลที่ควรเยี่ยมชมบึงกระจก

  1. ประสบการณ์ทำนายดวงความรักที่ไม่เหมือนใคร
    • การลอยกระดาษ Omikuji บนน้ำเป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุกและน่าจดจำ
  2. บรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติก
    • บึงกระจกตั้งอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติที่สงบและสวยงาม
  3. ความเชื่อและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม
    • ได้เรียนรู้เกี่ยวกับตำนานเทพเจ้าและความเชื่อของคนญี่ปุ่นเกี่ยวกับความรัก

บึงกระจก (Kagami no Ike) เป็นจุดเด่นที่เติมเต็มความพิเศษของศาลเจ้ายะเอะกาคิ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประสบการณ์เกี่ยวกับความรักและความศรัทธา 🌸

♨️ ไม่ไกลจากเมือง Matsue ยังเป็นที่ตั้งของแหล่งน้ำพุร้อนชื่อดัง “ทะมะสึคุริ อนเซ็น (Tamatsukuri Onsen)”อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องสรรพคุณช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น สามารถใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นรอบๆ หรือลงไปแช่เท้าในแม่น้ำทะมะยุ (Tamayu River) แหล่งต้นน้ำของน้ำพุร้อน รวมทั้งเดินชมไฟประดับยามค่ำคืนได้ด้วย  

คลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม

ทะมะสึคุริ อนเซ็น (Tamatsukuri Onsen) เป็นหนึ่งในน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองมัตสึเอะ (Matsue) จังหวัดชิมาเนะ น้ำพุร้อนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี และเป็นที่รู้จักในฐานะ “น้ำพุร้อนแห่งความงาม” เนื่องจากคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ


รายละเอียดสำคัญ

1. ประวัติศาสตร์และตำนาน

  • ทะมะสึคุริ อนเซ็นปรากฏในเอกสารโบราณของญี่ปุ่น เช่น อิซุโมะ ฟุโดกิ (Izumo Fudoki) ซึ่งเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ของภูมิภาคอิซุโมะ
  • เชื่อกันว่าน้ำพุร้อนแห่งนี้ถูกใช้ในพิธีกรรมของเทพเจ้าเพื่อสร้างลูกปัดมณี (Tama) ซึ่งเป็นวัตถุมงคลในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
  • ตำนานเล่าว่าการแช่น้ำพุร้อนแห่งนี้ไม่เพียงช่วยรักษาร่างกาย แต่ยังช่วยชำระล้างจิตวิญญาณ

2. คุณสมบัติของน้ำพุร้อน

  • น้ำพุร้อนที่นี่มีส่วนประกอบของ ซัลเฟตและโซเดียม ซึ่งช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและชุ่มชื้น
  • อุณหภูมิน้ำอยู่ที่ประมาณ 50°C – 70°C เหมาะสำหรับการแช่เพื่อผ่อนคลายและฟื้นฟูร่างกาย
  • ได้รับการยกย่องว่าเป็น “น้ำพุร้อนเพื่อความงาม” (Bijin no Yu) เนื่องจากช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิว

3. บรรยากาศและสิ่งอำนวยความสะดวก

  • เมืองอนเซ็นเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์:

    • บรรยากาศรอบ ๆ เป็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ มีที่พักแบบเรียวกัง ร้านค้า และคาเฟ่ที่เรียงรายตลอดทาง
    • มีสะพานและแม่น้ำเล็ก ๆ ที่เพิ่มความโรแมนติกให้กับพื้นที่
  • แช่เท้า (Ashiyu):

    • มีจุดแช่เท้าฟรีที่ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์กลางของเมืองน้ำพุร้อน
    • เป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสน้ำพุร้อนโดยไม่ต้องแช่ตัว
  • อ่างอาบน้ำสาธารณะและเรียวกัง:

    • มีอ่างอาบน้ำสาธารณะสำหรับผู้ที่ต้องการแช่น้ำในราคาประหยัด
    • เรียวกังในพื้นที่หลายแห่งมีบ่อออนเซ็นส่วนตัวและห้องพักที่มองเห็นวิวธรรมชาติ

4. กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

  • ศาลเจ้าทะมะสึคุริ (Tamatsukuriyu Shrine):

    • ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่น้ำพุร้อนและเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่เทพเจ้าแห่งการสร้างลูกปัดมณีสถิตอยู่
    • มี “หินมณี” (Magatama) ที่เชื่อว่ามีพลังในการนำโชคและความสงบสุขมาให้
  • เวิร์กช็อปทำลูกปัดมณี:

    • นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทำเครื่องประดับจากลูกปัดมณี ซึ่งเป็นงานฝีมือท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์
  • เส้นทางเดินชมธรรมชาติ:

    • รอบ ๆ เมืองมีเส้นทางเดินเล่นที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้และแม่น้ำ เหมาะสำหรับการพักผ่อน

5. การเข้าถึง

  • การเดินทาง:

    • จากสถานี Matsue Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที โดยรถบัสหรือรถยนต์
    • มีป้ายบอกทางชัดเจนในบริเวณใกล้เคียง
  • เวลาทำการ:

    • จุดแช่เท้าและอ่างอาบน้ำสาธารณะเปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเย็น (เวลาอาจแตกต่างกันตามสถานที่)
  • ค่าใช้จ่าย:

    • บ่ออาบน้ำสาธารณะ: ประมาณ 300-1,000 เยน ขึ้นอยู่กับสถานที่
    • เรียวกังพร้อมออนเซ็นส่วนตัว: ราคาขึ้นอยู่กับระดับของที่พัก

เหตุผลที่ควรเยี่ยมชมทะมะสึคุริ อนเซ็น

  1. ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน: ได้สัมผัสบรรยากาศของน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
  2. คุณสมบัติของน้ำพุร้อนเพื่อความงาม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพผิว
  3. เมืองเล็กที่เงียบสงบ: บรรยากาศที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและหลีกหนีความวุ่นวาย
  4. กิจกรรมสร้างสรรค์: การทำลูกปัดมณีเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจและเป็นของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร

ทะมะสึคุริ อนเซ็นจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานระหว่างความงามของธรรมชาติ วัฒนธรรม และประสบการณ์การผ่อนคลายที่ไม่เหมือนใคร 🌿♨

คลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม

กิจกรรมแช่เท้าในแม่น้ำทะมะยุ (Tamayu River Foot Bath) เป็นหนึ่งในประสบการณ์พิเศษที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพื้นที่ ทะมะสึคุริ อนเซ็น (Tamatsukuri Onsen) เมืองมัตสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ การแช่เท้าในแม่น้ำแห่งนี้เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายและมีเอกลักษณ์ เนื่องจากใช้น้ำพุร้อนธรรมชาติที่ไหลมาจากน้ำพุร้อนในพื้นที่


รายละเอียดสำคัญ

1. ลักษณะของแม่น้ำทะมะยุ

  • แม่น้ำทะมะยุ ไหลผ่านใจกลางพื้นที่ทะมะสึคุริ อนเซ็น โดยล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติและสะพานเล็ก ๆ ที่เพิ่มความโรแมนติก
  • น้ำในแม่น้ำบางส่วนได้รับการผสมผสานกับน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีอุณหภูมิอุ่นพอดีสำหรับการแช่เท้า
  • ลำธารมีจุดนั่งแช่เท้าหลายแห่งที่ได้รับการจัดทำอย่างสวยงามด้วยหินธรรมชาติและไม้

2. จุดเด่นของกิจกรรมแช่เท้า

  • สุขภาพและความงาม:
    น้ำพุร้อนในแม่น้ำทะมะยุมีแร่ธาตุที่ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้า ลดการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ และทำให้ผิวเนียนนุ่ม
  • ฟรีและเข้าถึงง่าย:
    กิจกรรมแช่เท้าในแม่น้ำเป็นบริการที่ไม่มีค่าใช้จ่ายและเปิดให้ทุกคนได้สัมผัส
  • เหมาะสำหรับทุกคน:
    ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ครอบครัว หรือคู่รัก กิจกรรมนี้ช่วยให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย

3. วิธีการแช่เท้า

  • ขั้นตอนง่าย ๆ:
    1. เดินไปยังจุดแช่เท้าที่จัดไว้ริมแม่น้ำ (ม้านั่งและหินธรรมชาติถูกจัดวางเพื่อให้นั่งแช่เท้าได้สะดวก)
    2. ถอดรองเท้าและวางเท้าลงในน้ำอุ่นของแม่น้ำ
    3. นั่งพักและปล่อยให้ความร้อนจากน้ำช่วยบรรเทาความเมื่อยล้า
  • เคล็ดลับ:
    • ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีในการแช่เท้าเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด
    • เตรียมผ้าขนหนูเล็ก ๆ มาด้วยเพื่อเช็ดเท้าให้แห้งหลังแช่

4. บรรยากาศและสิ่งแวดล้อม

  • วิวธรรมชาติ:
    ล้อมรอบด้วยต้นไม้ สวนเล็ก ๆ และวิวของแม่น้ำทะมะยุที่ไหลเอื่อย ๆ ทำให้รู้สึกสงบ
  • สะพานอนเซ็น:
    ใกล้จุดแช่เท้าจะมีสะพานไม้เล็ก ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของทะมะสึคุริ อนเซ็น
  • ประสบการณ์โรแมนติก:
    กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศเงียบสงบ

5. การเดินทางและเวลา

  • สถานที่ตั้ง:
    จุดแช่เท้าริมแม่น้ำทะมะยุสามารถเดินถึงได้ง่ายจากใจกลางเมืองทะมะสึคุริ อนเซ็น
  • เวลาเปิดให้บริการ:
    เปิดให้บริการตลอดเวลา แต่ช่วงเช้าหรือเย็นเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับบรรยากาศ
  • ค่าใช้จ่าย:
    ไม่มีค่าใช้จ่าย

เหตุผลที่ควรลองกิจกรรมนี้

  1. ผ่อนคลายและดูแลสุขภาพ:
    ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าหลังการเดินทางหรือท่องเที่ยว
  2. เข้าถึงง่าย:
    ไม่ต้องเตรียมตัวมาก และเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
  3. สัมผัสธรรมชาติ:
    การแช่เท้าในแม่น้ำพร้อมชมวิวธรรมชาติช่วยให้จิตใจสงบและสดชื่น

กิจกรรมแช่เท้าในแม่น้ำทะมะยุเป็นประสบการณ์เล็ก ๆ ที่สร้างความประทับใจใหญ่ให้กับผู้ที่มาเยือน ทะมะสึคุริ อนเซ็น ถือเป็นจุดพักผ่อนที่ลงตัวสำหรับการผ่อนคลายทั้งกายและใจ 🌿♨

ℹ️ ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.visit-matsue.com/info/moving

🚆 การเดินทาง : จากสถานี Shin-Osaka หรือ Kyoto โดยสารรถไฟชินคันเซ็น ประมาณ 1 ชั่วโมง ลงที่สถานี Okayama แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ JR Limited Express Yakumo ลงที่สถานี Matsue ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

🎫 พาสรถไฟที่เกี่ยวข้อง : JR-WEST RAIL PASS (Sanyo-San’in Area Pass, Kansai-San’in Area Pass, JR-WEST All Area Pass)

คลิ๊กเพื่ออ่านเพิ่มเติม

 

บทสรุป: การเที่ยวรอบเมืองมัตสึเอะ (Matsue) ด้วยรถบัส

เมืองมัตสึเอะ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “เมืองแห่งน้ำ” อันงดงาม ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติไว้อย่างลงตัว การเที่ยวรอบเมืองนี้ด้วย Matsue Lakeline Sightseeing Bus เป็นตัวเลือกที่สะดวกและคุ้มค่า เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย


เหตุผลที่ควรเลือกเที่ยวด้วยรถบัส Matsue Lakeline

  1. เส้นทางครอบคลุมจุดเด่น:
    รถบัสพาเที่ยวรอบจุดสำคัญ เช่น

    • ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle): สัญลักษณ์ของเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
    • ล่องเรือโฮริคะวะ (Horikawa Sightseeing Boat): สัมผัสบรรยากาศรอบปราสาทจากมุมมองในแม่น้ำ
    • ศาลเจ้ายะเอะกาคิ (Yaegaki Shrine): สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับความรักและการทำนายโชคชะตา
    • ทะมะสึคุริ อนเซ็น (Tamatsukuri Onsen): แหล่งน้ำพุร้อนเพื่อความผ่อนคลายและสุขภาพ
  2. การเดินทางสะดวก:

    • รถบัสวิ่งวนตามจุดท่องเที่ยวทุก ๆ 30 นาที
    • มีจุดขึ้นลงสะดวกหลายแห่ง
    • สามารถเลือกแวะชมจุดต่าง ๆ ได้ตามความสนใจ
  3. ประหยัดและคุ้มค่า:

    • ราคาตั๋วเหมาะสม โดยมีตั๋ววัน (One-Day Pass) ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
    • ลดความยุ่งยากในการเดินทางเอง
  4. เหมาะสำหรับการผ่อนคลาย:

    • การนั่งรถบัสชมเมืองเป็นวิธีที่ไม่เร่งรีบ ทำให้เพลิดเพลินไปกับวิวธรรมชาติและเมืองเก่า
    • เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวแบบสบาย ๆ

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  • ตารางเวลา: ควรเช็กรอบรถบัสและเวลาปิดของแต่ละสถานที่ล่วงหน้า เพื่อวางแผนเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เสื้อผ้าและรองเท้า: สวมใส่ชุดที่สบายสำหรับการเดินเที่ยวหรือแวะสถานที่ต่าง ๆ
  • ตั๋ววัน: ใช้ประโยชน์จากตั๋ววันเพื่อเดินทางได้อย่างอิสระ

สรุปความประทับใจ

การเที่ยวรอบเมืองมัตสึเอะด้วยรถบัส Matsue Lakeline ไม่เพียงช่วยให้คุณสัมผัสเสน่ห์ของเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม แต่ยังเพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทาง เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการดื่มด่ำกับมนต์เสน่ห์ของเมืองมัตสึเอะที่คุณจะจดจำไปอีกนาน! 🌸🚌

PKG JOURNEY มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น คุณภาพให้เลือกมากที่สุด

สนใจเช่ารถขับที่ญี่ปุ่น 

โทร. 02 676 3303 / 02 003 4883 – 5

ติดตามข่าวสารของเราได้ที่

Line id : @pkgjourney

Facebook page : https://www.facebook.com/pkgjourney/

รวมแพ็คเกจทัวร์เส้นทางทั่วโลก

Like Us On Facebook

Facebook Pagelike Widget