ชี้เป้า เรียวกังในจังหวัดยามานาชิ พักผ่อนในโรงแรมเก่าแก่ที่สุดในโลก

เรียวกังในจังหวัดยามานาชิ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก คือ Koshu Nishiyama Onsen Keiunkan ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 705 ทำให้ที่นี่กลายเป็นโรงแรมที่ดำเนินการต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก ที่นี่เป็นโรงแรมแบบเรียวกังที่มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติหรือออนเซ็นให้บริการ ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้มาเยือนทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติ

มีความโดดเด่นตรงที่ยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิมของเรียวกังแบบญี่ปุ่นไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของเทือกเขาในยามานาชิ ผู้เข้าพักสามารถสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบและเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นที่มีแร่ธาตุจากธรรมชาติ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยบำบัดและผ่อนคลายร่างกาย

นอกจากการพักผ่อนในบ่อน้ำพุร้อนแล้ว แขกยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารญี่ปุ่นที่ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างพิถีพิถัน ประสบการณ์การพักในเรียวกังแห่งนี้ถือเป็นการเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่แท้จริง และเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและให้บริการด้วยมาตรฐานที่ยอดเยี่ยม

เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย และสัมผัสความสงบสุขของธรรมชาติและประเพณีที่คงอยู่มาเกือบ 1,300 ปี

ออนเซ็นของโรงแรมได้รับน้ำจากแหล่งน้ำพุร้อนที่มีแร่ธาตุจากภูเขาในบริเวณรอบ ๆ ซึ่งเชื่อว่ามีคุณสมบัติช่วยบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพ มีหลายบ่อทั้งในร่มและกลางแจ้ง ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำในบ่อที่มองเห็นวิวภูเขาที่สวยงาม โดยเฉพาะบ่อกลางแจ้งที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ ในขณะที่แช่น้ำ คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความสงบและผ่อนคลายจากความร้อนที่มาจากธรรมชาติ น้ำในบ่อออนเซ็นที่นี่มีแร่ธาตุหลากหลาย เช่น โซเดียม แคลเซียม และซัลเฟต ที่เชื่อกันว่าช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ลดอาการปวดข้อ และบรรเทาความเครียด

ห้องพักใน Koshu Nishiyama Onsen Keiunkan ออกแบบมาเพื่อให้แขกได้สัมผัสกับบรรยากาศดั้งเดิมของญี่ปุ่น ผสมผสานความหรูหรากับความเรียบง่าย ห้องพักส่วนใหญ่เป็นแบบ เรียวกัง ที่ตกแต่งด้วยเสื่อทาทามิและประตูบานเลื่อนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบเงียบและอบอุ่น

ห้องพักมีหลายขนาด เพื่อตอบสนองความต้องการของแขก ตั้งแต่ห้องพักแบบมาตรฐานสำหรับผู้เข้าพัก 2-3 คน ไปจนถึงห้องขนาดใหญ่ที่รองรับครอบครัวหรือกลุ่มผู้เข้าพักได้ ห้องทุกห้องมีวิวธรรมชาติที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นวิวภูเขาหรือแม่น้ำ และบางห้องยังมีบ่อออนเซ็นส่วนตัวที่สามารถเพลิดเพลินได้ในความเป็นส่วนตัว

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักถูกจัดเตรียมไว้อย่างครบครัน ทั้งฟูกนอนแบบดั้งเดิม (ฟุตง) เสื้อคลุมยูกาตะสำหรับใส่หลังการแช่ออนเซ็น และผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ นอกจากนี้ ห้องพักยังมีพื้นที่นั่งเล่นที่จัดไว้อย่างพิถีพิถันเพื่อให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลาย

มิยามะไคเซกิ เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่นำเสนอในรูปแบบของหลายคอร์ส มักถูกเสิร์ฟในเรียวกังหรูหรือร้านอาหารระดับสูง โดย ไคเซกิ นั้นถือเป็นศิลปะการจัดอาหาร ที่ไม่เพียงแต่เน้นรสชาติเท่านั้น แต่ยังเน้นถึงความสวยงามและความสมดุลของทุกองค์ประกอบในจาน อาหารแต่ละคอร์สของมิยามะไคเซกิถูกจัดเรียงอย่างพิถีพิถัน โดยมีการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ซึ่งสะท้อนถึงธรรมชาติและภูมิประเทศที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงปี

มิยามะไคเซกิมักประกอบไปด้วยจานหลากหลายประเภท เช่น ซุปใส (osuimono), ปลาดิบสด (sashimi), ของย่าง (yakimono), ของต้ม (nimono), และข้าวกับซุป (shokuji) ทุกจานมีขนาดเล็กและถูกเตรียมด้วยวิธีที่ละเอียดอ่อน เพื่อให้แขกสามารถสัมผัสกับรสชาติที่หลากหลายโดยไม่รู้สึกหนักเกินไป

นอกจากนี้ การนำเสนออาหารในมิยามะไคเซกิยังเน้นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของการจัดเรียงจาน การใช้ภาชนะที่ประณีตและเข้ากับฤดูกาล รวมถึงการเลือกใช้สีและส่วนผสมที่ทำให้แต่ละจานดูงดงามและมีความหมาย ทำให้มิยามะไคเซกิเป็นมากกว่าแค่มื้ออาหาร แต่เป็นประสบการณ์ทางศิลปะที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น

Minobusan Kuonji Temple เป็นวัดสำคัญในจังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของนิกายนิชิเร็น วัดนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1274 โดยพระนิชิเร็น ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่ศาสนาพุทธในญี่ปุ่น วัดตั้งอยู่บนภูเขามิโนบุ และเป็นสถานที่ที่พระนิชิเร็นใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายและมรณภาพ

การเข้าถึงวัดต้องผ่านบันไดหินยาวกว่า 287 ขั้น ซึ่งนำไปสู่อาคารหลักของวัดที่สวยงามและเงียบสงบ ภายในวัดประกอบด้วยอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอพระใหญ่ (Daido) และหอระฆัง (Shoro) ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม ผู้ที่มาเยือนสามารถสัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และความสงบสุขของสถานที่นี้

นอกจากความสำคัญทางศาสนาแล้ว Minobusan Kuonji ยังเป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่งดงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระบานสะพรั่งทั่วบริเวณวัด และในฤดูใบไม้ร่วงที่ต้นไม้รอบ ๆ วัดเปลี่ยนสีสันสวยงาม วัดแห่งนี้จึงไม่เพียงเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความงดงามทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของญี่ปุ่น

Akasawa Village เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาของจังหวัดยามานาชิ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านธรรมชาติที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ หมู่บ้านนี้รายล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้เขียวขจี ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองและสัมผัสความงามของธรรมชาติ

Akasawa Village มีเสน่ห์เฉพาะตัวด้วยการรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้านไว้ ผู้มาเยือนสามารถพบกับบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้และหลังคาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม รวมถึงมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตรและการปลูกพืชท้องถิ่น ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่ นอกจากนี้ หมู่บ้านยังมีทางเดินป่าที่ทอดยาวไปตามเทือกเขา ทำให้ผู้ที่รักการผจญภัยสามารถเดินสำรวจธรรมชาติและชมวิวที่งดงามของภูเขาและแม่น้ำได้

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง Akasawa Village จะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี สร้างบรรยากาศที่งดงามดั่งภาพวาด และในฤดูหนาว หมู่บ้านจะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้มาเยือน ทำให้ Akasawa Village เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ